กรุงเทพฯ 30 พ.ย. – 3 แกนนำกลุ่มนักเรียนไท เข้ารับทราบข้อกล่าวหาฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่ สน.ลุมพินี ขณะที่มวลชนยังคงปักหลักให้กำลังใจหน้า สน.
แกนนำกลุ่มนักเรียนไท ที่ร่วมวางหมุดคณะราษฎร์ 2563 จำนวน 3 คน เดินทางมาที่ สน.ลุมพินี เพื่อรับทราบข้อกล่าวหากับพนักงานสอบสวน ตามหมายเรียกฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งคาดว่าเป็นผลจากการชุมนุมเมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2563 ที่สี่แยกราชประสงค์ ตั้งแต่เวลา 13.00 น.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ (19.30 น.) ยังคงอยู่ระหว่างการสอบปากคำของเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยคนแรกใช้เวลาสอบปากคำนาน 3 ชั่วโมง
ขณะที่มวลชนบางส่วนปักหลักรออยู่บริเวณหน้า สน.ลุมพินี พร้อมกับนำลำโพงขยายเสียงมาเตรียมพร้อมสำหรับการปราศรัยในวันนี้ด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ หนึ่งในเยาวชนที่ได้รับหมายเรียก ย้ำว่า การชุมนุมเป็นสิทธิตามรัฐธรรมนูญ และการชุมนุมมีเพียงร้องเพลงอย่างสงบและปราศจากอาวุธ ส่วนการเสนอให้กระทรวงศึกษาธิการปฏิรูป ถือเป็นสิทธิที่ทำได้ตามรัฐธรรมนูญเช่นเดียวกัน ยืนยันว่า การออกหมายเรียกไม่ทำให้หยุดเรียกร้องตามอุดมการณ์ เพราะหลังจากนี้ก็จะเคลื่อนไหวต่อไป ซึ่งในวันพรุ่งนี้ (1 ธ.ค.) ที่มีการเชิญชวนให้นักเรียนแต่งชุดไปรเวทไปโรงเรียน ก็มองว่าเป็นข้อดีที่ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อชุดนักเรียน
หนึ่งในแกนนำกลุ่มนักเรียนไท ที่เดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา ยังบอกอีกว่า กิจกรรมวันนี้จะมีการปราศรัยให้ความรู้ เพื่อให้ประชาชนรับทราบถึงกรณีที่รัฐใช้กฎหมายกับเยาวชน และการจัดกิจกรรมวันนี้ไม่ได้แจ้งขออนุญาตจัดกิจกรรมแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม ช่วงประมาณ 17.00 น.ที่ผ่านมา มีกลุ่มมวลชนบางคนเดินทางมาจุดเทียนที่บริเวณด้านหน้า สน.ลุมพินี พร้อมระบุว่า ประเทศไทยมืดมิด จึงต้องการจุดเทียนให้มีแสงสว่าง และวันนี้ต้องการมาให้กำลังใจเยาวชน โดยมองว่า การแจ้งข้อกล่าวหากับเยาวชนนั้นไม่ยุติธรรม จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจนึกถึงข้อกฎหมาย ความเป็นมนุษย์ และนึกถึงอนาคตของเยาวชนที่ออกมาต่อสู้เพื่ออนาคตของเยาวชนเอง พร้อมขอให้ปล่อยตัวเยาวชนด้วย. – สำนักข่าวไทย