ฟันข้อหา พ.ร.บ.อุ้มหายฯ เพิ่มในคดี “เป้รักผู้การ”

กรุงเทพฯ 25 ม.ค. – พนักงานสอบสวนคดี “เป้รักผู้การ” ฟันข้อหา พ.ร.บ.อุ้มหายฯ กับตำรวจ-พลเรือน เพิ่ม 21 ราย รวมอดีตผู้การชลบุรี พร้อมออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาวันที่ 12-13 ก.พ.นี้


นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน หัวหน้าชุดคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวนในคดีเจ้าหน้าที่รัฐมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเรียกรับทรัพย์จากเครือข่ายเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท ในคดีเป้รักผู้การ เปิดเผยภายหลังการประชุมร่วมกับคณะพนักงานสอบสวนของตำรวจกว่า 7 ชั่วโมง ว่า ขณะนี้ได้ข้อสรุปว่าจะดำเนินคดีในความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ กับผู้ต้องหาที่เป็นข้าราชการตำรวจทั้งหมด 17 นาย รวมถึง พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภากรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี และพลเรือนที่ร่วมกับตำรวจทั้ง 17 นาย กระทำความผิดในฐานดังกล่าวอีก 4 คน นอกจากนี้ ยังได้แจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญากับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มเติมอีก 1 ราย เนื่องจากพบพยานหลักฐานเพิ่มเติม

หลังจากนี้พนักงานสอบสวนจะออกหมายเรียกผู้ต้องหาทั้งหมด มารับทราบข้อกล่าวหาที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ในวันที่ 12-13 กุมภาพันธ์นี้ หลังจากนั้นพนักงานสอบสวนจะสรุปสำนวนเพื่อมีความเห็นทางคดีก่อนส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ซึ่งระหว่างนี้ผู้ต้องหามีสิทธิ์อ้างพยานหลักฐานต่างๆ มาประกอบการสอบสวนเพื่อต่อสู้คดีได้ เนื่องจากกระบวนการแจ้งข้อกล่าวหาเป็นการเริ่มต้นสืบสวนคดีเพราะมีพยานหลักฐานที่บ่งชี้ว่ามีการกระทำเข้าข่ายความผิดจริง แต่ยังไม่มีความเห็นสั่งฟ้อง


ด้าน พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน กล่าวว่า คดีดังกล่าวได้ดำเนินการสอบสวนพยานเสร็จสิ้นไปแล้ว 136 ปาก และยืนยันจะดำเนินการสรุปสำนวนส่งไปยังอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต ภายใน 60- 90 วัน ตามกรอบที่วางไว้แต่เดิมอย่างแน่นอน

สำหรับ พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภากรณ์ อดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรี ก่อนหน้านี้ได้ถูกแจ้งข้อกล่าวหาในความผิดตามมาตรา 157 ละเว้น หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ, มาตรา 149 เรียกหรือยอมรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด สำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ชอบ, มาตรา 309 ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำหรือไม่กระทำการใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย ก่อนถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานฯ เพิ่มเติมในวันนี้. -413-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์

PEA ตัดไฟแก๊งคอลเซ็นเตอร์บริเวณชายแดนไทย-เมียนมา 5 จุด

เริ่มแล้ว การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) รับนโยบาย สมช.สั่งตัดไฟฟ้าแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในฝั่งเมียนมา 5 จุด เมื่อเวลา 09.00 น. วันนี้

บุกจับกำนันหญิงแหนบทองคำ ฉ้อโกง 41 ล้าน

ตำรวจพิษณุโลกเปิดปฏิบัติการ “หักขาไก่” นำ 10 หมายจับ รวบตัว “กำนันหญิงแหนบทองคำ” ประธานกองทุนหมู่บ้าน กับคณะกรรมการกองทุนฯ ร่วมฉ้อโกงประชาชน หลังชาวบ้าน 140 ราย แจ้งความ มูลค่าความเสียหาย 41 ล้านบาท

ชาวเมียวดีหวั่นถูกตัดไฟฟ้า เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์

ชาวบ้านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ตรงข้ามชายแดนแม่สอด จ.ตาก หวั่นไทยตัดไฟฟ้า กระทบวงกว้าง เตรียมเทียนไข-ไฟโซลาร์เซลล์-เครื่องปั่นไฟ รับมือ ด้าน PEA ชี้ตัดไฟเมียนมาอาจสูญเปล่า หากไม่พิจารณาให้ครบถ้วน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ​ ยกคณะเยือนจีน หารือความร่วมมือรอบด้าน

นายกรัฐมนตรี​ ยกคณะเยือนจีนอย่างเป็นทางการ หารือความร่วมมือรอบด้าน แก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์-อาชญากรรมข้ามชาติ ย้ำไทยปลอดภัย พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวจีนตลอดปี สานต่อ​รถไฟความเร็วสูง-แลนด์บริดจ์ ขณะที่เตรียมรับแพนด้ายักษ์คู่ใหม่​ และจะไปให้กำลังใจนักกีฬาไทยแข่งเอเชียนเกมส์ฤดูหนาว

ยายวัย 85 ดีใจได้เงินคืน ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอน 2 ล้าน

อายัดบัญชี อดีตข้าราชการครูวัย 85 ปี ดีใจได้เงินคืน หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างเป็นเจ้าหน้าที่ ก.คลัง หลอกโอนเงิน 2 ล้านบาท

รถทัวร์ชนต้นไม้

รถทัวร์ กทม.-เชียงใหม่ ตกร่องถนนชนต้นไม้ ดับ 2 เจ็บกว่า 30

รถโดยสารกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ ขับส่ายไปมา ก่อนเสียหลักตกร่องกลางถนนพุ่งชนต้นไม้ใหญ่ เสียชีวิต 2 ราย เจ็บกว่า 30 คน สาเหตุอยู่ระหว่างตรวจสอบ