วอชิงตัน 23 พ.ย. – เจ้าหน้าที่สาธารณสุขสหรัฐจะเป็นคนกลุ่มแรกที่ได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ภายใน 1 – 2 วันหลังจากได้รับอนุมัติจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในเดือนหน้า
นพ. มอนเซฟ สลาอุย หัวหน้าที่ปรึกษาทางวิทยาศาสตร์ของโครงการโอเปอเรชั่น วาร์ป สปีด (Operation Warp Speed) กล่าวว่า ชาวอเมริกันร้อยละ 70 จากทั้งหมด 330 ล้านคนจำเป็นจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันในคนหมู่มากตามเป้าหมายของรัฐบาลภายในเดือนพฤษภาคมปีหน้า และว่า องค์การอาหารและยาสหรัฐหรือเอฟดีเอ (FDA) จะอนุมัติการผลิตวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ที่พัฒนาโดยไฟเซอร์ อิงค์ บริษัทเวชภัณฑ์ของสหรัฐและไบโอเอนเทคของเยอรมนีในช่วงกลางเดือนหน้า ซึ่งถือเป็นโครงการฉีดวัคซีนครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์สหรัฐ ทั้งยังระบุว่า วัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 จะได้รับการจัดส่งไปยังหลายพื้นที่ของรัฐต่าง ๆ ที่ต้องการวัคซีนภายใน 24 ชั่วโมงหลังผ่านการอนุมัติ นพ. สลาอุยกล่าวทิ้งท้ายว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐหรือซีดีซี (CDC) และคณะกรรมการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าคนกลุ่มใดควรจะได้รับวัคซีนก่อน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นกลุ่มแพทย์ พยาบาล และเจ้าหน้าที่การแพทย์ฉุกเฉินที่ปฏิบัติงานในแนวหน้า รวมถึงบุคคลที่เสี่ยงต่อการติดโรคและมีโอกาสเสียชีวิตสูง เช่น ผู้สูงอายุ
ที่ปรึกษาภายนอกขององค์การอาหารและยาสหรัฐมีกำหนดการเข้าประชุมร่วมกันในวันที่ 10 ธันวาคมนี้ เพื่อพิจารณาการขออนุมัติใช้วัคซีนฉุกเฉินของไฟเซอร์ที่มีประสิทธิภาพป้องกันโรคโควิด-19 สูงถึงร้อยละ 95 ขณะที่วัคซีนที่พัฒนาโดยโมเดอร์นา อิงค์ บริษัทเภสัชภัณฑ์ของสหรัฐคาดว่าจะแยกขออนุมัติเป็นลำดับต่อมาในเดือนธันวาคมเช่นกัน. – สำนักข่าวไทย