กรุงเทพฯ 10 พ.ย. – ชุมชนหลังหมอชิตเก่ารวมตัวยื่นหนังสือถึง รมว.คมนาคม-ผอ.สนข. คัดค้านการย้ายสถานี บขส.กลับมาอยู่ที่หมอชิตเก่าในพื้นที่โครงการคอมเพล็กซ์เอกชน ชี้อาจไม่มีความเหมาะสม ระบุหมอชิต 2 ปัจจุบันอยู่ใกล้อู่รถเมล์ ขสมก. และสถานีรถตู้ ที่สำคัญเชื่อมต่อการเดินทางกับสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งเป็นศูนย์กลางคมนาคมระบบรางสะดวกมากกว่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (10 พ.ย.) ตัวแทนประชาชนที่อาศัยอยู่ในชุมชนหลังหมอชิตเก่าเดินทางมาที่กระทรวงคมนาคม เพื่อยื่นหนังสือถึงนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร (สนข.) เพื่อคัดค้านการย้ายสถานีรับส่งผู้โดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) กลับมาใช้พื้นที่หมอชิตเก่าในที่ดินของกรมธนารักษ์ที่ให้สัมปทานกับบริษัทเอกชนพัฒนาเป็นโครงการคอมเพล็กซ์ศูนย์การค้า โรงแรม และเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์
นางสาววินินท์อร ปรีชาพินิจกุล ผู้แทนชุมชนหลังหมอชิตเก่า เปิดเผยว่า ไม่มีเหตุผลเพียงพอในการย้ายสถานีรับส่งผู้โดยสาร บขส. กลับมาแออัดยัดเยียดบริเวณหมอชิตเก่า ตามที่เคยมีการทำแผนไว้ในอดีตว่าจะพัฒนาพื้นที่ดังกล่าวเป็นศูนย์กลางคมนาคม เพราะปัจจุบันสถานการณ์สิ่งแวดล้อมและระบบการคมนาคมขนส่งของกรุงเทพมหานครมีพัฒนาการไปไกลกว่าเดิมมากแล้ว โดยสถานี บขส. บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 หรือหมอชิตใหม่ หรือหมอชิต 2 นั้น มีความเหมาะสมในการเชื่อมต่อการเดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะ ระหว่างรถบัสโดยสาร และระบบรางได้อย่างสมบูรณ์แบบ
ทั้งนี้ หากโครงการก่อสร้างสถานีกลางบางซื่อ ซึ่งจะเป็นศูนย์กลางคมนาคมแห่งใหม่รวมระบบขนส่งมวลชนทางราง ทั้งรถไฟ รถไฟฟ้า รถไฟทางคู่ รถไฟความเร็วสูง ไว้ในที่เดียวกัน ซึ่งจะเปิดให้บริการปี 2564 รวมทั้งโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงที่จะเปิดบริการปี 2565 โดยจะเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อการเดินทางโดยรถขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่นๆ อย่างครบวงจร ถือเป็นระบบคมนาคมขนส่งสมัยใหม่ และตอนที่คิดจะย้าย บขส. กลับหมอชิตเก่า เพื่อหวังใช้เป็นศูนย์กลางคมนาคมครั้งนั้นยังไม่มีสถานีกลางบางซื่ออยู่ในแผน ดังนั้น สถานการณ์และสิ่งแวดล้อมขณะนี้เปลี่ยนไปจากอดีตมากแล้ว หากสถานี บขส. ยังอยู่ในพื้นที่หมอชิต 2 ปัจจุบันอยู่ใกล้เคียงและมีความเชื่อมต่อกับสถานีกลางบางซื่อจะอำนวยความสะดวกต่อการเดินทางของประชาชนมากกว่า เพราะสามารถเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างรถโดยสาร และระบบราง คือ สถานีกลางบางซื่อและรถไฟฟ้าสายสีแดงได้อย่างสมบูรณ์แบบและเหมาะสมที่สุด
นอกจากนี้ ก่อนหน้านี้ผู้บริหารกระทรวงคมนาคมยังเคยออกมาระบุว่าพื้นที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 สามารถพัฒนาเป็นศูนย์กลางระบบรถโดยสารสาธารณะ หรือ Bus Transportation Hub ได้หลัง สถานีกลางบางซื่อและรถไฟฟ้าสายสีแดงเปิดให้บริการ เพราะจะมีการเชื่อมต่อกับอู่รถเมล์ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่อยู่ด้านข้างและสถานีรถตู้ถนนกำแพงเพชร (อยู่ฝั่งตรงข้ามสถานีหมอชิต 2) และการเดินทางเชื่อมต่อไปยังสถานีกลางบางซื่อจะทำได้สะดวกและใช้เวลาไม่นาน โดยคมนาคมมีแผนให้ ขสมก. จัดรถวิ่งวนหมุนเวียน เพื่ออำนวยความสะดวกผู้โดยสารที่จะเดินทางเชื่อมต่อระหว่างระบบรางจากสถานีกลางบางซื่อมาที่สถานีขนส่งหมอชิต 2 เชื่อว่าประชาชนผู้ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะจะได้ประโยชน์สูงสุด
ปัจจุบันสถานีขนส่งหมอชิต 2 ตั้งอยู่บนถนนกำแพงเพชร เป็นทำเลและพื้นที่ที่มีความเหมาะสมกับการต่อเชื่อมการเดินทางทุกด้าน ซึ่งจะช่วยลดปัญหาการจราจรติดขัด เพิ่มความสะดวก และประหยัดเวลาการเดินทางอย่างมาก โดยไม่จำเป็นต้องย้ายสถานีเข้ามากระจุกตัวบนพื้นที่หมอชิตเก่า ซึ่งจะสร้างความแออัดและสร้างปัญหาการจราจรเพิ่มขึ้นให้กับพื้นที่โดยรอบบริเวณนี้ ที่ปัจจุบันประสบปัญหาการจราจรติดขัดอย่างหนักอยู่แล้ว ในช่วงเวลาปกติและชั่วโมงเร่งด่วน ทั้งในช่วงเช้าและช่วงเย็น และหากเป็นช่วงเทศกาลที่มีวันหยุดยาว ก็จะต้องมีประชาชนเดินทางเข้าเมืองมาจากทุกสารทิศทั่วกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่อมาใช้บริการ รถโดยสาร บขส. เดินทางออกไปต่างจังหวัด สร้างความแออัดให้กับการจราจรบริเวณโดยรอบหมอชิตเก่ายิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ยังจะสร้างมลพิษและเพิ่มปัญหาสิ่งแวดล้อมให้กับพื้นที่โดยรอบและบริเวณใกล้เคียง ทั้งในระหว่างการก่อสร้าง และในช่วงที่ประชาชนจำเป็นต้องเดินทางเข้ามาใช้บริการ จึงไม่มีความจำเป็นที่จะย้ายสถานีรับส่งผู้โดยสาร บขส. กลับมาที่หมอชิตเก่า เพื่อสร้างปัญหาใหม่ให้เกิดขึ้นเพิ่มอีก
นางสาววินินท์อร กล่าวว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาชาวบ้านหลังหมอชิตเก่าได้ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อคัดค้านการเวนคืนที่ดินชาวบ้านบริเวณหลังหมอชิตเก่ายาวออกไปถึงริมถนนวิภาวดีรังสิต เพื่อสร้างทางยกระดับหรือถนนลอยฟ้าออกจากโครงการคอมเพล็กซ์ของเอกชนที่สถานี บขส. จะย้ายเข้ามาอยู่ในโครงการดังกล่าว เพราะจะต้องมีการใช้งบประมาณของรัฐบาลที่มาจากภาษีประชาชนมาจ่ายค่าเวนคืนที่ดินและก่อสร้างถนนลอยฟ้า โดยอ้างว่าเพื่อใช้เป็นทางเข้า-ออกให้กับรถ บขส. เพราะถือเป็นบริการสาธารณะ
ทั้งที่จริงแล้วการเวนคืนที่ดินสร้างถนนลอยฟ้า เพื่อเป็นทางเข้า-ออกโครงการนี้จะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับเอกชนผู้ได้รับสัมปทานสร้างคอมเพล็กซ์หรือโครงการมิกซ์ยูสมากกว่า เพราะโครงการพัฒนาที่ดิน โดยสร้างเป็นคอมเพล็กซ์บนที่ดินของกรมธนารักษ์บริเวณหมอชิตเก่านี้ จะมีการใช้พื้นที่เพื่อการพาณิชย์มากกว่า 85% ของพื้นที่ทั้งหมด คือ เป็นศูนย์การค้า โรงแรม ศูนย์ประชุม เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ อาคารเช่าจอดรถ เป็นต้น ขณะที่สถานีรับส่งผู้โดยสารและ บขส. หรือภาครัฐจะได้ใช้ประโยชน์ในพื้นที่เพียง 15% เท่านั้น ดังนั้น จึงเป็นการเวนคืนที่ดินชาวบ้านที่อาจขัดต่อหลักการพระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนและการให้รัฐได้มาซึ่งอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ.2562 ที่ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ต้องเป็นการเวนคืนเพื่อการเป็นสาธารณูปโภค การป้องกันประเทศ หรือเพื่อประโยชน์สาธารณะอย่างอื่น ซึ่งอาจขัดต่อเจตนารมณ์ของกฎหมายนี้
“ไม่ได้คัดค้านโครงการคอมเพล็กช์ที่จะเกิดขึ้นบนพื้นที่หมอชิตเก่า แต่คัดค้านการย้ายสถานีรับส่งผู้โดยสาร บขส.กลับมาที่หมอชิตเก่า และคัดค้านการใช้งบประมาณจากเงินภาษีของประชาชนมาเวนคืนที่ดินและสร้างถนนลอยฟ้าที่เอื้อประโยชน์ให้เอกชนมากกว่าเพื่อประโยชน์สาธารณะของรัฐและของประชาชน และสงสัยถึงความพยายามที่จะผลักดันให้มีการย้ายสถานี บขส.กลับมาที่หมอชิตเก่าว่าเพื่อนำมาใช้เป็นข้ออ้างหรือเป็นเหตุผลสนับสนุนการเวนคืนที่ดินและสร้างถนนลอยฟ้าหรือไม่ เพราะหากไม่ย้ายสถานี บขส.กลับมา เหตุผลหรือข้ออ้างในการสร้างถนน เพื่อใช้เป็นทางออกให้รถโดยสาร บขส.ก็จะไม่เกิดขึ้น หรือไม่มีความจำเป็น จึงอาจมีขั้นตอนหรือการดำเนินการที่ไม่ถูกต้อง ในฐานะชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน จึงมาร้องคัดค้านและขอความเป็นธรรมจากกระทรวงคมนาคมและ สนข.ในฐานะผู้กำกับดูแลวางแผนระบบการคมนาคมของประเทศทั้งหมด” นางสาววินินท์อร กล่าว
ตัวแทนชุมชนหลังหมอชิตยังกล่าวด้วยว่า หากรัฐบาลจะต้องนำงบประมาณจากเงินภาษีประชาชนมาใช้ทั้งเวนคืนและก่อสร้างถนนลอยฟ้า รวมแล้วไม่น่าจะต่ำกว่า 2,000 ล้านบาท หากจะย้ายกลับมาหมอชิต ควรเอาเงินให้ บขส.ไปซื้อที่ดิน ย้ายไปสร้างสถานีออกนอกเมืองดีกว่าที่จะให้เข้ามากระจุกตัวอยู่กลางใจเมืองเช่นนี้ ซึ่งเป็นหลักการกระจายความเจริญและความแออัดขยายออกไปนอกเมืองที่ทั่วโลกทำกัน ในปัจจุบันและอนาคตรถไฟฟ้าวิ่งยาวออกไปนอกเมืองรอบกรุงเทพฯ และปริมณฑล เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางให้ประชาชนให้ประชาชนอยู่แล้ว เหตุใดต้องให้ประชาชนที่จะเดินทางออกต่างจังหวัดโดยรถบัส บขส.ต้องเดินทางเข้าเมืองมานั่งรถ บขส.ที่หมอชิตอีก ซึ่งก่อนหน้านี้เคยมีแผนที่จะให้ บขส.ออกไปซื้อที่ทำสถานีนอกเมืองแต่กลับถูกยกเลิกโครงการไป
นอกจากนี้ ทางชุมชนหลังหมอชิตจะไปยื่นหนังสือคัดค้านต่อกรมธนารักษ์และกระทรวงการคลังในฐานะเจ้าของโครงการสัมปทาน รวมทั้งวันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายนนี้ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจะเข้ายื่นฟ้องร้องต่อศาลปกครอง เพื่อขอศาลคุ้มครองระงับการออก พ.ร.บ.เวนคืนพื้นที่ ทำให้ประชาชนได้รับผลกระทบต่อไปด้วย .-สำนักข่าวไทย