สมุทรปราการ 22 ต.ค. – ผู้ว่าฯ สมุทรปราการ พร้อมตัวแทนของ ปตท. ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุท่อส่งก๊าซระเบิด ยังไม่ยืนสาเหตุว่าเกิดจากรถแบ็กโฮไปกระทบท่อหรือไม่ ส่วนตัวเลขผู้บาดเจ็บกว่า 50 คน เสียชีวิตยืนยัน 3 คน ประชาชนได้รับผลกระทบ 32 ครัวเรือน
นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมด้วยตัวแทนของ ปตท. ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุท่อส่งก๊าซระเบิด บริเวณอำเภอบางบ่อ จังหวัดสมุทรปราการ
ขณะนี้บริเวณท่อก๊าซที่ระเบิด เจ้าหน้าที่สามารถปิดท่อส่งก๊าซได้เรียบร้อยแล้ว ส่วนโดยรอบยังคงกั้นพื้นที่ไม่ให้ผู้เกี่ยวข้องเข้าไป เพราะเจ้าหน้าที่การไฟฟ้ากำลังเร่งซ่อมแซม เพื่อให้สามารถกลับมาจ่ายไฟได้เช่นเดิม
นายทองพูน กมเลศร์ ผู้จัดการส่วนปฏิบัติการระบบท่อส่งก๊าซเขต 1 ปตท. ระบุว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นท่อที่ระเบิดมีความหนาครึ่งนิ้ว เส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 36 นิ้ว วางลึกประมาณ 5-10 เมตร โดยท่อก๊าซนี้ส่งจากโรงไฟฟ้าบางประกงไปโรงไฟฟ้าวังน้อย ทั้งนี้ ท่อส่งก๊าซจะมีอายุการใช้งาน 25 ปี โดยท่อที่มีการระเบิดเพิ่งใช้ได้เพียง 10 ปี และเพิ่งมีการตรวจสภาพ
ส่วนสาเหตุการระเบิดคาดว่าเกิดจากรถแบ็กโฮไปกระทบท่อจนเกิดเหตุ ยังไม่สามารถยืนยันได้ ต้องรอการตรวจสอบจากทีมวิศวกรอีกครั้ง พร้อมยืนยันว่าจะไม่มีเหตุระเบิดรอบ 2 ขึ้นอีก ขอให้ประชาชนมั่นใจ
นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมมลพิษยังลงพื้นที่ตรวจสอบปริมาณก๊าซ พบว่าขณะนี้ไม่ปรากฏมีก๊าซที่สามารถติดไฟได้แล้ว ทั้งนี้ ตามหลักการแล้วสาเหตุที่จะทำให้ก๊าซสามารถติดไฟได้เกิดจาก 3 สาเหตุ คือ เกิดจากมีประกายไฟ เกิดจากการกระแทกจนเกิดเปลวไฟ และเกิดจากรั่วซึมเจอเปลวไฟ ทั้งนี้ ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าเหตุระเบิดครั้งนี้เกิดจากอะไร
โดยภาพรวมความเสียหายจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้พบมีประชาชนได้รับผลกระทบทั้งหมด 32 ครัวเรือน ส่วนตัวเลขผู้บาดเจ็บขณะนี้อยู่ที่ 52 คน ส่วนใหญ่ได้รับบาดเจ็บจากไฟไหม้ร่างกาย จนเกิดแผลผุพอง ส่วนผู้เสียชีวิตขณะนี้ยืนยันที่ 3 คน.-สำนักข่าวไทย