รัฐสภา 22 ต.ค.-ที่ประชุมร่วม 4 ฝ่ายจัดสรรกรอบเวลาอภิปรายญัตติหาทางออกประเทศ ตามมาตรา 165 เตือนสมาชิกใช้วุฒิภาวะอภิปรายเรื่องสถาบัน ด้านฝ่ายค้านยันต้องพูด หลีกเลี่ยงไมได้
นายวิรัช รัตนเศรษฐ ประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร(วิปรัฐบาล) แถลงภายหลังการประชุมร่วมกันระหว่างประธานรัฐสภากับผู้แทนวิปสามฝ่าย(รัฐบาล ฝ่ายค้าน วุฒิสภา) เพื่อพิจารณาแนวทางการพิจารณาญัตติตามมาตรา 165 ของรัฐธรรมนูญ ว่า เบื้องต้นอภิปรายในวันที่ 26 และ 27 ตุลาคม โดยแบ่งเป็น 4 ส่วน คือ ส.ส.ฝ่ายค้าน 8 ชั่วโมง รัฐบาล 5 ชั่วโมง ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล 5 ชั่วโมงและสมาชิกวุฒิสภา 5 ชั่วโมง โดยเริ่มอภิปรายเวลา 09.30 น. เสร็จสิ้นเวลา 22.00 น. ซึ่งอาจเลยเวลาบ้างจากการเสียเวลาจากการประท้วง โดยหวังว่าญัตติที่รัฐบาลเสนอมาจะเป็นทางออกให้สถานการณ์คลีคลายลงบ้าง ซึ่งการอภิปรายตามมาตรา 165 จะไม่มีการลงมติ
ด้านนายสุทิน คลังแสง ประธานคณะกรรรมการพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิฝ่ายค้าน) กล่าวว่า ที่ประชุมร่วม 4 ฝ่ายมีความกังวลประเด็นเดียวที่อาจจะขัดข้อบังคับที่ห้ามพูดเรื่องสถาบัน ญัตติที่รัฐบาลเสนอจะตอบสนองและหาทางออกให้รัฐบาลได้หรือไม่ หากเป็นทางตัน ไม่ใช่ทางออกฝ่ายค้านก็ต้องทบทวน โดยจะนำเรื่องนี้หารือกับพรรคร่วมฝ่ายค้านในบ่ายวันนี้( 22 ต.ค.)
ส่วนนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ได้เห็นญัตติที่รัฐบาลเสนอมาแล้วที่อ้างถึงหลายสิ่ง ทั้งเรื่องขบวนเสด็จ ข้อเรียกร้องของนักศึกษาทั้ง 3 ข้อ ซึ่งพรรคก้าวไกลอยากให้รัฐสภาเป็นตัวอย่างในการอภิปรายอย่างมีวุฒิภาวะ สามารถพูดเรื่องสถาบันได้ภายใต้กรอบกฎหมาย แต่จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ รัฐสภาต้องเป็นตัวอย่าง มีวุฒิภาวะ
นายสมชาย แสวงการ วิปวุฒิสภา กล่าวว่า การเปิดประชุมครั้งนี้ถือเป็นทางออกด้วยการใช้กระบวนการทางรัฐสภา เชื่อทุกฝ่ายหวังดีต่อบ้านเมือง ไม่ว่าจะเป็นข้อเรียกร้อง 3 ข้อ ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นและที่สังคมสงสัย สภาน่าจะนำมาพูดโดยสร้างสรร ค์เพราะสมาชิกมีความหวังต้องการคลี่คลายวิกฤติ.-สำนักข่าวไทย