กรุงเทพฯ 19 ต.ค.-ภาคีเครือข่ายร่วมรณรงค์ปลอดภัยไว้ก่อนโควิด-19 ยังไม่จบ ชวน 472 ตลาดในพื้นที่ กทม. คงเข้ม 3 มาตรการ ใส่หน้ากาก เว้นระยะห่าง ล้างมือ ให้เป็นวิถีชีวิตประจำวัน หวั่นประชาชนการ์ดตก
วันนี้ (19ต.ค.) ที่ตลาดบองมาร์เช่ ย่านประชาชื่น เครือข่ายพัฒนาคุณภาพชีวิต , เยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง สสส.ร่วมกับสำนักงานเขตจตุจักร สำนักอนามัย กทม.จัดกิจกรรมรณรงค์“ปลอดภัยไว้ก่อน โควิด-19ยังไม่จบ”รณรงค์ให้ใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง ให้เป็นวิถีชีวิตประจำวัน
น.ส.รุ่งอรุณ ลิ้มฬหะภัณ รักษาการผู้อำนวยการสำนักสนับสนุนการควบคุมปัจจัยเสี่ยงหลัก (สสส.)กล่าวว่า สืบเนื่องจากที่ สสส.ภาคีเครือข่าย ร่วมกับ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ดำเนินโครงการตลาดปลอดภัย ลดเสี่ยงโควิด-19 ร่วมกับตลาดใน กทม.ทั้ง 50 เขต ตั้งแต่ช่วงต้นๆของการแพร่ระบาดของโควิด -19 ในประเทศไทย ได้ผลตอบรับจากตลาดและประชาชนเป็นอย่างดี ทั้งผู้ซื้อและผู้ขายให้ความสนใจในการล้างมือ การสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่างและการดูแลตนเอง แต่ด้วยสถานการณ์ภาพรวมทั่วโลกยังคงน่าเป็นห่วง จึงยังคงต้องมีมาตรการเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
“เราไม่ควรประมาทต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แม้ตัวเลขการติดเชื้อในประเทศไม่ค่อยน่าห่วง ล่าสุดเมื่อ18 ต.ค.ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่ม 7 คน ทำให้ไทยมีผู้ป่วยสะสม 3,686 คน เสียชีวิต 59 คน คนทั่วไป80% มีโอกาสติดเชื้อ หากเป็นผู้ที่มีร่างกายไม่แข็งแรง ปอดอ่อนแอ ซึ่งเชื้อโควิด19 จะทำให้ปอดอักเสบ ซึ่งการสูบบุหรี่และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพิ่มโอกาสการติดเชื้อได้ง่ายกว่าผู้ไม่สูบไม่ดื่ม โดยผู้สูบบุหรี่มีโอกาสติดเชื้อมากกว่าผู้ไม่สูบถึง 14 เท่า ส่วนผู้ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มีโอกาสติดเชื้อมากกว่าผู้ไม่ดื่มถึง 2.8 เท่า นอกจากนี้ตัวเลขการติดเชื้อของประเทศเพื่อนบ้าน กลับพบว่ามีจำนวนมากขึ้นอย่างน่าเป็นห่วง โดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานข้ามชาติ ซึ่งตลาดยังคงถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงในลำดับต้นๆ เราจำเป็นต้องลดความเสี่ยง ปลอดภัยไว้ก่อนด้วยการสร้างวินัยให้ตนเอง ทำ3เรื่องสำคัญทุกครั้งเมื่อออกจากบ้านคือ ใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือและเว้นระยะห่าง และลด ละ เลิก การสูบบุหรี่ และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเพิ่มภูมิคุ้มกันปอดให้แข็งแรงอีกด้วย” น.ส.รุ่งอรุณ กล่าว
ทั้งนี้ สสส.และภาคีเครือข่าย ได้จัดทำสื่อรณรงค์ให้กับ 472 ตลาด ในกรุงเทพมหานคร และมีการจัดขบวนรณรงค์ประชาสัมพันธ์ ไปใน 20 ตลาดนำร่อง อาทิ ตลาดอ่อนนุช ตลาดถนอมมิตร ตลาดบองมาเช่ เป็นต้น เพื่อให้ทุกคนร่วมกันดูแลตนเองในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19
นายสัญญา รอดโพทอง ที่ปรึกษาฝ่ายอาคารและสถานที่ตลาดบองมาเช่ กล่าวว่า ผู้มาใช้บริการในตลาดหากเทียบเป็นจำนวนรถยนต์ ประมาณ 2,000คัน ต่อวัน ส่วนใหญ่ร้อยละ 90เป็นผู้สูงอายุ และมากันเป็นครอบครัว ที่ผ่านมาทางตลาดร่วมกับ ภาคส่วนต่างๆ เดินตามนโยบายของรัฐบาล เน้นประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้พ่อค้าแม่ค้าผู้มาจับจ่ายใช้สอย ตระหนักถึงความสำคัญการป้องกันโควิด-19 ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตแบบNew Normal กินร้อนช้อนส่วนตัว ล้างมือ และสวมหน้ากากอนามัย เว้นระยะห่าง ซึ่งในพื้นที่ตลาดจะมีจุดตรวจคัดกรอง ฉีดยาฆ่าเชื้อเป็นระยะ มีอ่างล้างมือแบบเท้าเหยียบ ซึ่งที่นี่ถือเป็นต้นแบบในการติดตั้งอ่างล้างมือเท้าเหยียบในตลาดของเรามานานแล้ว ก่อนจะเกิดโควิด และทุกวันนี้พ่อค้าแม่ค้า ผู้ใช้บริการก็เข้าใจและให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี.-สำนักข่าวไทย