นายกฯ นำทีมแถลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ

กทม. 12 ต.ค.-นายกรัฐมนตรี พาทีมเศรษฐกิจมาร่วมแถลงความเชื่อมั่น ในการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ พร้อมเผยที่ประชุม ครม.เคาะ 3 มาตรการกระตุ้นรายได้ประเทศ

3 มาตรการนี้ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยภายหลังนำทีมเศรษฐกิจของรัฐบาล ประกอบด้วย นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง และนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง แถลงข่าวหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยนายกฯ บอกว่า พาทีมเศรษฐกิจมาแนะนำเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกคนว่า รัฐบาลจะทำงานอย่างเต็มที่ และจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจอย่างระมัดระวัง ครอบคลุมทุกกลุ่มทุกมาตรการ


ซึ่งการประชุมคณะรัฐมนตรี ที่ประชุมได้อนุมัติมาตรการด้านเศรษฐกิจหลายเรื่อง โดยเฉพาะ 3 มาตรการที่ช่วยกระตุ้นรายได้ภายในประเทศ คือ มาตรการเติมเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ให้ประชาชน 14 ล้านคน คนละ 1,500 บาท มาตรการคนละครึ่ง เป็นการกระตุ้นค่าใช้จ่าย ซึ่งรัฐกับประชาชนออกคนละครึ่ง เน้นไปยังร้านค้าปลีก แต่ต้องมีขึ้นทะเบียน โดยเป็นการจ่ายเงินโดยตรง ผ่าน e-wallet และมาตรการ ช้อปดีมีคืน ประชาชนสามารถนำค่าใช้จ่ายจากการซื้อสินค้ามาลดหย่อยภาษีได้ 30,000 บาท

ส่วนมาตรการต่างๆ เหล่านี้ มีรายละเอียดอะไรบ้าง นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง ให้ข้อมูลว่า


มาตรการช้อปดีมีคืน เน้นช่วยเหลือผู้ประกอบการ รวมถึงการส่งเสริมการผลิตสินค้าท้องถิ่นและส่งเสริมการอ่าน โดยผู้ซื้อสินค้าและบริการ สามารถนำค่าซื้อสินค้า ทั้งสินค้า 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์ หรือหนังสือเป็นเล่มๆ หนังสืออิเล็กทรอนิกส์ มาใช้หักลดหย่อนภาษีได้แต่มีเงื่อนไขว่า ต้องไม่เกิน 30,000 บาท และซื้อตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคม ถึง 31 ธันวาคมปีนี้ นอกจากนี้สินค้าและบริการต้องซื้อกับผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม หรือลงทะเบียนไว้กับกรมการพัฒนาชุมชนเท่านั้นด้วย ขณะเดียวกันมีอีกเรื่องที่ต้องจำ คือ คนที่มีสิทธิ์ใช้มาตรการ ช้อปดีมีคืน ต้องไม่ได้รับสิทธิ์ตามโครงการคนละครึ่ง หรือโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

สำหรับมาตรการ ช้อปดีมีคืน นี้ รัฐบาลคาดหวังให้เกิดเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจประมาณ 111,000 ล้านบาท ซึ่งจะส่งผลให้จีดีพีเพิ่มขึ้นร้อยละ 0.30 และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเข้าเป็นผู้ประกอบการจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ซึ่งจะเป็นการขยายฐานภาษี และส่งผลดีต่อการจัดเก็บรายได้ภาษีของรัฐในระยะยาว

ส่วนมาตรการคนละครึ่ง จะช่วยเหลือดูแลพ่อค้าแม่ค้าขนาดเล็ก ที่ประกอบกิจการขายสินค้าหาบเร่แผงลอยที่เป็นบุคคลธรรมดา และมาตรการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะช่วยเหลือผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ด้วยการเพิ่มวงเงินพิเศษ สำหรับซื้อสินค้าบริโภคอุปโภคที่จำเป็น 500 บาทอต่อคนต่อเดือน เป็นระยะเวลา 3 เดือน


สำหรับ 3 มาตรการนี้ ครอบคลุมกลุ่มเป้าหมายกว่า 28 ล้านคน คาดมีเม็ดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 192,000 ล้านบาท และส่งผลให้จีดีพี เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.54.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้ห้องพักคอนโดฯ หรูกลางเมืองพัทยา

เพลิงไหม้คอนโดมิเนียมหรูกลางเมืองพัทยา จ.ชลบุรี เจ้าหน้าที่ระดมรถน้ำควบคุมเพลิงได้ทัน ทำให้ไฟไม่ลุกลามห้องข้างเคียง

จับ “ใบเฟิร์น” อินฟลูฯสาวชื่อดัง โพสต์ชวนเล่นพนันออนไลน์

ตำรวจไซเบอร์ รวบ “ใบเฟิร์น กุลธาดา” อินฟลูฯ สาวแนวเซ็กซี่ ผู้ติดตามหลักล้าน แปะลิงก์เว็บพนันออนไลน์ เจ้าตัวยอมรับ ทำมาแล้ว 2-3 เดือน

ลิงลพบุรีแหกกรง กว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพัก

ลิงลพบุรีกรงแตก เพ่นพ่านกว่า 200 ตัว จ่าฝูงนำทีมบุกโรงพักท่าหิน ตำรวจปิดประตูหน้าต่างวุ่น ล่าสุดกลับมากินอาหารในกรงแล้วกว่า 100 ตัว กรมอุทยานฯ เร่งลุยจับ คาดใช้เวลา 2-3 วัน

ข่าวแนะนำ

คุมตัวสาวใหญ่โหดฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ทำแผนฯ

ตร. คุมตัวสาวใหญ่โหด ลวงเพื่อนฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์ ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ เจ้าตัวสำนึกผิด ฝากขอโทษญาติผู้เสียชีวิต ยอมรับทำเพราะติดหนี้พนันออนไลน์

Drone video captures severe flooding caused by super typhoon Man-Yi in the Philippines

ฟิลิปปินส์น้ำท่วมหนัก หลังไต้ฝุ่น “หม่านหยี่” ถล่ม

มะนิลา 18 พ.ย. – ฟิลิปปินส์เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ หลังจากซูเปอร์ไต้ฝุ่นหม่านหยี่ (Man-yi) พัดถล่มเกาะลูซอน ช่วงสุดสัปดาห์ เป็นไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ในรอบ 1 เดือน ไต้ฝุ่นขึ้นฝั่งด้วยความเร็วลมสูงสุด 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดคลื่นสูง 7 เมตรบริเวณริมชายฝั่ง ส่งผลกระทบประชากรกว่า 760,000 คน และทำให้เกิดน้ำท่วมรุนแรงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดนูเอวาเอซีฮา ทางตอนกลางของเกาะลูซอน ที่มีน้ำท่วมสูงเฉลี่ยเกือบ 1 เมตร นอกจากนี้ยังทำให้เกิดดินถล่มและสาธารณูปโภคพังเสียหายมากมาย ประชาชนมากกว่า 1 ล้านคนต้องอพยพไปอาศัยอยู่ในศูนย์พักพิงชั่วคราว ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พายุหม่านหยี่เป็นพายุไต้ฝุ่นลูกที่ 6 ที่พัดถล่มฟิลิปปินส์ในช่วง 1 เดือน ทั่วทั้งประเทศต้องตื่นตัวเพื่อรับมือภัยพิบัติด้วยมาตรการต่าง ๆ.-812(814).-สำนักข่าวไทย

ฆ่าตัดนิ้ว

เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วแม่ยายอัยการ ชิงทรัพย์ล้างหนี้พนัน

หญิงวัย 56 ปี เปิดปากสารภาพฆ่าตัดนิ้วชิงทรัพย์แม่ยายอัยการ ก่อนนำทรัพย์สินไปขายใช้หนี้พนัน ตำรวจคุมตัวไปตามหาทรัพย์สินของกลาง อ้างลงมือก่อเหตุคนเดียว