กรุงเทพ 11ต.ค.-รัฐบาลเชิญชวนประชาชนแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง และร่วมกิจกรรมน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตรัชกาลที่ 9
นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร วันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2563 นี้ ประชาชนทุกหมู่เหล่าล้วนรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่เป็นล้นพ้นหาที่สุดมิได้ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ได้ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจน้อยใหญ่นานัปการ เพื่อบำบัดทุกข์บำรุงสุขแก่ปวงชนชาวไทยมาโดยตลอดนับตั้งแต่เสด็จเถลิงถวัลยราชสมบัติ ตราบจนกระทั่งเสด็จสวรรคต ซึ่งพสกนิกรทุกหมู่เหล่าต่างมีความตั้งใจที่จะร่วมกันแสดงออกซึ่งความจงรักภักดี และน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระมหากษัตริย์ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐโดยพร้อมเพรียงกัน
นายอนุชา กล่าวว่า รัฐบาลจึงเห็นสมควรดำเนินการจัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลและกิจกรรมน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2563 โดยดำเนินการอย่างสมพระเกียรติ และคำนึงถึงความเหมาะสมในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั้งในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และในต่างประเทศ ประกอบด้วย พิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล ในวันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2563 เวลา 07.30 น. ส่วนกลาง จัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง พระสงฆ์ จำนวน 89 รูป มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ส่วนภูมิภาคมอบหมายกระทรวงมหาดไทยแจ้งทุกจังหวัดจัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม โดยจัดพิธีพร้อมกันกับส่วนกลาง และสำหรับในต่างประเทศ มอบหมายกระทรวงการต่างประเทศแจ้งสถานเอกอัครราชทูต และสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
นายอนุชา ยังกล่าวอีกว่า ทั้งนี้พิธีวางพวงมาลาและถวายบังคม จัดในวันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2563 เวลา 08.30 น. ภายหลังเสร็จสิ้นพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานในพิธี ส่วนกลาง จัดพิธี ณ ท้องสนามหลวง ส่วนภูมิภาค มอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยแจ้งทุกจังหวัด จัดพิธี ณ ศาลากลางจังหวัดหรือสถานที่ที่เหมาะสม โดยจัดพิธีพร้อมกันกับส่วนกลาง และสำหรับในต่างประเทศ มอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศแจ้งสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลพิจารณาการจัดพิธีตามที่เห็นสมควรและเหมาะสม
นายอนุชา กล่าวว่าสำหรับการจัดกิจกรรมจิตอาสา จะมีการจัดกิจกรรมจิตอาสาในนามรัฐบาล โดยนายกรัฐมนตรีและภริยา พร้อมด้วยคณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ร่วมกิจกรรมจิตอาสาน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคตพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในวันที่ 13 -14 ตุลาคม 2563 และจัดกิจกรรมจิตอาสา “ปณิธานความดี ทำดีเริ่มได้ที่ใจเรา” โดยให้สถาบันการศึกษาและสถานสงเคราะห์ทุกแห่งเชิญชวนนักเรียน นักศึกษา และเยาวชน ร่วมจัดกิจกรรมจิตอาสาเพื่อสังคม และบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ เพื่อเป็นการใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ สร้างความรักความสามัคคี สร้างจิตสาธารณะ เสียสละร่วมกันทำประโยชน์เพื่อส่วนรวม เช่น การพัฒนาศาสนสถาน การพัฒนาสถานที่สาธารณะ ชุมชน วัด โรงเรียน แม่น้ำคูคลอง การปลูกต้นไม้ การเก็บขยะ เก็บผักตบชวา การกำจัดวัชพืช การปรับปรุงภูมิทัศน์ การจัดกิจกรรมซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า ซ่อมสร้างเพื่อชุมชน Fix it Center เป็นต้น ที่จะดำเนินการตลอดเดือนตุลาคม 2563
“ขอเชิญชวนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชน จัดตั้งโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระบรมฉายาลักษณ์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พร้อมเครื่องราชสักการะ (เครื่องทองน้อย) ตามอาคารสถานที่ของหน่วยงานและบ้านเรือน ระหว่างวันที่ 13 – 22 ตุลาคม 2563 พร้อมทั้งจัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล พิธีวางพวงมาลา พิธีจุดเทียนน้อมรำลึกฯ และร่วมแต่งกายด้วยเสื้อสีเหลือง ในวันอังคารที่ 13 ตุลาคม 2563 เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อปวงชนชาวไทยทุกคนโดยพร้อมเพรียงกัน” โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย