กต.พร้อมออกวีซ่าให้ชาวต่างชาติเข้าไทย

กรุงเทพฯ 10 ต.ค.-รองโฆษก กต. เผยกระทรวงการต่างประเทศพร้อมออกวีซ่าให้ชาวต่างชาติเข้าไทยแล้ว ยันรอบคอบรัดกุม


นายณัฐภาณุ นพคุณ รองอธิบดีกรมสารนิเทศและรองโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศมีความพร้อมในการตรวจลงตราและดำเนินกระบวนการที่เกี่ยวข้องให้แก่ชาวต่างชาติที่ต้องการเดินทางเข้าประเทศไทย และดำเนินการในขั้นตอนต่าง ๆ ด้วยความรอบคอบรัดกุม โดยตามขั้นตอนต้องมีการประสานงานกับหลายหน่วยงาน

นายณัฐภาณุ กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 7-8 เดือนก่อนหน้านี้ สถานทูตและสถานกงสุลใหญ่ได้ส่งกลับคนไทยกว่า 100,000 คน และคนต่างชาติที่เข้าข่ายที่จะเข้าไทยกว่า 22,000 คนแล้ว ดังนั้นการเดินทางเข้าประเทศไทยของนักท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ ที่จะเกิดขึ้นต่อไป ไม่น่าจะเป็น ปัญหาในเชิงขั้นตอน เพราะจะเริ่มจากจำนวนที่น้อยเมื่อเทียบกับจำนวนคนไทยที่สถานทูตเคยได้ช่วยในการส่งกลับในช่วงที่ผ่านมา แต่นักท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ ต้องทำทุกอย่างตามขั้นตอนเช่นกัน และหากไม่มีเอกสารที่เกี่ยวข้องอย่างครบถ้วน ก็ต้องดำเนินการให้ครบก่อนกำหนดวันเดินทาง มิเช่นนั้นต้องเลื่อนการเดินทาง


“เนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก ทำให้มีการเพิ่มขั้นตอนในการเดินทางเข้าประเทศไทย ทั้งการตรวจลงตราที่ต้องมีการตรวจเอกสารหลักฐานมากขึ้น การออกหนังสือรับรองเข้าราชอาณาจักร (Certificate of Entry-COE) การตรวจสอบความถูกต้องและครบถ้วนของเอกสารที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ก่อนเดินทาง อาทิ ใบรับรองแพทย์ COVID-free และใบรับรองแพทย์ fit to fly/travel เพื่อความรัดกุมด้านสาธารณสุข รวมทั้งการสำรองหรือแสดงหลักฐานที่พัก การตรวจสอบด้านความมั่นคง ซึ่งยังคงต้องดำเนินตามขั้นตอนปกติ” นายณัฐภาณุ กล่าว

นายณัฐภาณุ กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระบวนการคัดกรองผู้เดินทางเข้าประเทศไทยในปัจจุบัน ยังต้องมีการประสานข้อมูลระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ อาทิ การประเมินประเทศกลุ่มเสี่ยงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่กระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ประเมินและมีการปรับกลุ่มประเทศเป็นระยะ ๆ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศจะนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาการอนุญาตให้เดินทางเข้าประเทศไทยด้วย ทั้งนี้ เมื่อกระทรวงการต่างประเทศดำเนินการตรวจลงตราและออก COE ให้แก่ผู้เดินทางแล้ว ก็จะแจ้งประสานข้อมูลต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) กระทรวงกลาโหม กระทรวงมหาดไทย เพื่อให้หน่วยงานไทยได้รับข้อมูลอย่างทั่วถึงและเป็นระบบ และนำไปดำเนินการตามขั้นตอนที่รับผิดชอบได้

นายณัฐภาณุ กล่าวด้วยว่า อย่างไรก็ตาม กระทรวงการต่างประเทศได้แจ้งสถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ไทยทั่วโลกให้ทราบและเตรียมความพร้อมสำหรับการออกวีซ่าและมาตรการผ่อนคลายต่าง ๆ ทุกครั้งเมื่อมีมาตรการใหม่หรือมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ อีกทั้งจะดำเนินการต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสะดวกและรวดเร็วในกระบวนการดำเนินการมากยิ่งขึ้น โดยคำนึงถึงความรอบคอบ รัดกุม และมาตรฐานความปลอดภัยด้านสาธารณสุขในประเทศควบคู่กันไป ตามที่ได้มีการหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างสม่ำเสมอ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทรัมป์” เดินทางถึงกรุงวอชิงตัน เตรียมเข้าพิธีสาบานตนรับตำแหน่ง

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เดินทางถึงสนามบินในกรุงวอชิงตันแล้วในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ้น เพื่อเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม ลูกชายคนเล็กถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชน

พ่อหวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม หลังสูญเสียลูก 2 คน ถูก “ติ๊ก ชีโร” ขับรถชนตกสะพาน ย่านสายไหม กรุงเทพฯ เหตุเกิดเมื่อ 10 ต.ค.67

รถน้ำมันระเบิดไนจีเรียหลังพลิกคว่ำ เสียชีวิต 77 ราย

รถบรรทุกน้ำมันระเบิดหลังจากพลิกคว่ำในพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไนจีเรีย คร่าชีวิตชาวบ้านอย่างน้อย 77 คนที่กำลังเอาถังมารองน้ำมันที่รั่วไหลจากรถบรรทุก

ข่าวแนะนำ

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี 2 ลูก

คนร้ายอุกอาจยิงระเบิด M79 ใส่ สภ.กะพ้อ จ.ปัตตานี จำนวน 2 ลูก โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ ด้าน รอง ผบก.ภ.จว.ปัตตานี กำชับเจ้าหน้าที่เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและตรวจสอบกล้องวงจรปิด พร้อมวางมาตรการคุมเข้มในพื้นที่

เช็กสิทธิ์เงินหมื่น

เช็กด่วนสิทธิเงินหมื่นอายุ 60 ปี ก่อนรัฐบาลกดปุ่มโอนจ่าย 27 ม.ค.นี้

เช็กด่วนสิทธิเงินหมื่นอายุ 60 ปี ก่อนรัฐบาลกดปุ่มโอนจ่ายเช้าวันจันทร์ 27 ม.ค.นี้ รัฐบาลฝากลูกหลานช่วยตรวจสิทธิพ่อแม่ปู่ย่าตายายผ่านแอป “ทางรัฐ” ให้ด้วย

น้ำค้างแข็งดอยอินทนนท์

ดอยอินทนนท์ น้ำค้างแข็งต่อเนื่อง อุณหภูมิยอดหญ้าติดลบ

ภาคเหนือหนาวต่อเนื่อง บริเวณกิ่วแม่ปาน ดอยอินทนนท์ จ.เชียงใหม่ เกิดปรากฏการณ์น้ำค้างแข็งขาวโพลน เป็นวันที่ 10 อุณหภูมิยอดหญ้า ติดลบ 0.4 องศาฯ

U.S. President Joe Biden and Trump shaking hands during meeting in Oval Office on November 13, 2024

“ทรัมป์” เตรียมสาบานตนรับตำแหน่ง ปธน.สหรัฐวันนี้

วอชิงตัน 20 ม.ค. – นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกอบกิจกรรมหลายอย่างเมื่อวานนี้ ก่อนเตรียมตัวเข้าพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีช่วงเที่ยงวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น นายทรัมป์เดินทางมาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ตั้งแต่เย็นวันเสาร์ และเมื่อวานนี้เขาและนายเจดี แวนซ์ ว่าที่รองประธานาธิบดี ได้เดินทางไปร่วมพิธีวางพวงมาลาและเคารพเหล่าทหารที่เสียชีวิตในสงครามที่สุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย จากนั้นนายทรัมป์ได้ไปเข้าร่วมงานปราศรัยกับผู้สนับสนุนที่แคปิตอลวันอารีนา ซึ่งเป็นสนามกีฬาในร่มในกรุงวอชิงตัน นับเป็นการปราศรัยใหญ่ในกรุงวอชิงตันครั้งแรกของทรัมป์ หลังจากที่เคยปราศรัยเรียกร้องผู้สนับสนุนให้ยกขบวนไปอาคารรัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2564 คัดค้านที่เขาพ่ายแพ้ให้แก่นายโจ ไบเดนในการเลือกตั้งปี 2563 สนามกีฬาแห่งนี้ยังจะเปิดให้ผู้คนได้เข้าชมงานพิธีสาบานตนของทรัมป์ผ่านการถ่ายทอดสดทางจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่ เนื่องจากสภาพอากาศเลวร้ายจากอิทธิพลของกระแสลมวนขั้วโลกแผ่ปกคลุมสหรัฐ ทำให้ต้องย้ายการจัดพิธีสาบานตนจากด้านหน้าอาคารรัฐสภาเข้าไปจัดด้านใน โดยมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยพื้นที่โดยรอบ ขณะที่ชาวอเมริกันจากทั่วประเทศเดินทางถึงกรุงวอชิงตันแล้วเพื่อร่วมงานที่เกี่ยวข้องกับพิธีสาบานตนของทรัมป์ หลายคนผิดหวังที่พลาดโอกาสได้ร่วมพิธีสาบานตนของทรัมป์ แต่ส่วนใหญ่เข้าใจเกี่ยวกับปัญหาสภาพอากาศเลวร้าย นายทรัมป์ วัย 78 ปี จะทำพิธีสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในเวลาเที่ยงวันของวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น ตรงกับเที่ยงคืนวันนี้ตามเวลาไทย ตามด้วยการกล่าวปราศรัย ซึ่งจะเป็นการประกาศแนวทางสำหรับการบริหารงานเป็นเวลา 4 ปีหลังจากนี้.-815(814).-สำนักข่าวไทย