กรุงเทพฯ 5 ต.ค. – ศูนย์วิจัย ธ.ก.ส.ชี้ปัญหาภัยธรรมชาติ ภาวะตลาดโลกและนโยบายรัฐ ส่งผลให้ราคาสินค้าเกษตรเดือนตุลาคม 4 ชนิด มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
นายสมเกียรติ กิมาวหา รองผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. คาดการณ์ราคาสินค้าเกษตรเดือนตุลาคม 2563 โดยสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวสูงขึ้น ได้แก่ ข้าวเปลือกเจ้าความชื้น 15% ราคาอยู่ที่ 9,479 – 9,628 บาท/ตัน เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.05 – 1.63 เนื่องจากปัญหาภัยแล้งอย่างรุนแรงในประเทศออสเตรเลีย ส่งผลให้ผลผลิตข้าวลดลงร้อยละ 90 จึงมีสตอกข้าวไม่เพียงพอต่อการบริโภค ทำให้ประเทศออสเตรเลียอาจนำเข้าข้าวจากประเทศไทยในช่วงเดือนตุลาคม
ยางพาราแผ่นดิบ ชั้น 3 ราคาอยู่ที่ 48.00 – 48.25 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.23 – 0.75 เนื่องจากความต้องการใช้ยางพาราภายในประเทศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากมาตรการภาครัฐ ประกอบกับคาดว่าผลผลิตจะออกสู่ตลาดลดลงจากภาวะฝนตกชุก ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการกรีดยางพารา มันสำปะหลัง ราคาอยู่ที่ 1.77 – 1.82 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.57 – 3.41 เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มต้นฤดูกาลผลิตปี 2563/2564 ผลผลิตยังออกสู่ตลาดไม่มาก ประกอบกับความต้องการผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังจากต่างประเทศยังมีอย่างต่อเนื่อง และปาล์มน้ำมัน ราคาอยู่ที่ 4.07 – 4.15 บาท/กก. เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนร้อยละ 0.25 – 2.22 เนื่องจากราคาน้ำมันปาล์มดิบยังคงปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากความต้องการใช้พลังงานไบโอดีเซลภายในประเทศที่เพิ่มขึ้น จึงผลักดันให้ราคาปาล์มน้ำมันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น
ด้านสินค้าเกษตรที่มีแนวโน้มราคาปรับตัวลดลง ได้แก่ ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคาอยู่ที่ 13,067 – 13,365 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.57 – 2.79 เนื่องจากผลผลิตข้าวหอมมะลิเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวช่วงปลายเดือนตุลาคม ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น ประกอบกับโรงสียังคงประสบปัญหาสภาพคล่องซึ่งอาจเป็นปัจจัยสำคัญในการกดดันราคาข้าวในตลาด ข้าวเปลือกเหนียวเมล็ดยาว ราคาอยู่ที่ 14,777 – 15,091 บาท/ตัน ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.77 – 2.83 เนื่องจากผลผลิตข้าวเหนียวนาปีเข้าสู่ฤดูกาลเก็บเกี่ยวช่วงปลายเดือนตุลาคม ทำให้ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้น
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ความชื้นไม่เกิน 14.5% ราคาอยู่ที่ 7.56-7.60 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50 – 1.00 เนื่องจากปริมาณผลผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ออกสู่ตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงช่วงฤดูเก็บเกี่ยวรุ่นแรก (ส.ค.-พ.ย.) ขณะที่ความต้องการใช้ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพื่อผลิตอาหารสัตว์คาดว่าทรงตัวตามสภาวะการบริโภคเนื้อไก่ที่ทรงตัว น้ำตาลทรายดิบตลาดนิวยอร์ก ราคาอยู่ที่ 11.74 – 11.86 เซนต์/ปอนด์ ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.50 – 1.50 (8.80-8.85 บาท/กก.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับความต้องการเอทานอลที่ลดลงในบราซิล ซึ่งอาจกระตุ้นให้โรงงานน้ำตาลของบราซิลเพิ่มสัดส่วนการผลิตน้ำตาลมากกว่าผลิตเอทานอล ประกอบกับคาดว่าจะมีผลผลิตน้ำตาลในตลาดโลกเพิ่มขึ้น ทำให้มีผลผลิตน้ำตาลส่วนเกิน
สุกร ราคาอยู่ที่ 76.12 – 76.86 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 1.28 – 2.23 เนื่องจากเข้าสู่เทศกาลกินเจปี 2563 ช่วงวันที่ 17 – 25 ตุลาคม 2563 ทำให้ประชาชนส่วนหนึ่งงดการบริโภคเนื้อสุกร เนื้อไก่ และไข่ไก่ ส่งผลให้ความต้องการบริโภคเนื้อสุกรลดลง และกุ้งขาวแวนนาไม ราคาอยู่ที่ 137.50 – 138.50 บาท/กก. ลดลงจากเดือนก่อนร้อยละ 0.36 – 1.08 เนื่องจากความต้องการบริโภคในประเทศชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจและเข้าสู่เทศกาลกินเจ ประกอบกับสถานการณ์ราคากุ้งโลกยังอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่องเป็นปัจจัยกดดันให้ราคากุ้งในประเทศลดลง.-สำนักข่าวไทย