กทม. 25 ก.ย. – ประชาชนยังแห่เลือกสถานพยาบาลสิทธิบัตรทองแน่นเขตราษฎร์บูรณะ แม้เปิดมา 7 วันแล้ว เพราะมีคนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ รวม 1.8แสน คน ด้าน เลขา สปสช. ยอมรับความล่าช้า ขอโทษประชาชน จะเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จ 1-2 เดือน รับมีคลินิกสนใจร่วมเป็นคู่สัญญาบริการประชาชน 10-20 แห่งแล้ว
บรรยากาศที่สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ ที่มีประชาชนจำนวนมากมาลงทะเบียนเลือกสถานพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพ หลังจากที่เกิดปัญหาทุจริตในคลินิกบัตรทอง โดยส่วนใหญ่ของประชาชนที่มาเนื่องจากไปสถานพยาบาลเดิมของตนแล้ว ไม่ได้รับการรักษา และได้รับการแจ้งว่า ไม่อาจให้บริการต่อไปได้อีก จึงทำให้ต้องมาติดต่อสำนักงานเขต เช่น นายสมภพ สุดแสง ประชาชนที่เดินทางมาเลือกสถานพยาบาลกล่าวว่า เดิมเป็นคนไข้ประจำรพ.สุขสวัสดิ์ รักษาโรคหัวใจ และต้องรับยาต่อเนื่อง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาไปร้บยาที่รพ.แต่ถูกรพ.แจ้งว่าไม่อาจให้บริการรักษาต่อไปได้ และหากต้องการับยาต่อกับรพ.ต้องเสียค่าใช้จ่าย จึงทำให้ต้องมาติดต่อสำนักงานเขตเพื่อเลือกสถานพยาบาลใหม่ โดยการเลือกครั้งนี้ก็เน้นการเลือกในรพ.ใกล้บ้านเหมือนเดิม
นางยุพิน รอบคอบ ประชาชนที่มาเปลี่ยนสถานพยาบาล กล่าวว่า เดิมเป็นคนไข้ของรพ.สุขสวัสดิ์ รักษาโรคไขมันในเลือด และมะเร็งเต้านม เมื่อทราบว่ารพ.เดิมไม่อาจให้บริการต่อไปได้ และวันนี้เป็นครบกำหนดต้องเจาะเลือดเพื่อตรวจร่างกายรักษาจึงเดินทางมาที่เขตเพื่อเลือกสถานพยาบาล
ด้านนางสาวภาวนา ใจเสงี่ยม ผอ.เขตราษฎร์บูรณะ กล่าวทางสำนักงานเขตได้เปิดให้บริการประชาชนลงทะเบียนเปลี่ยนสถานพยาบาลในระบบหลักประกันสุขภาพมาตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย. ที่ผ่านมา รวม 7 วันแล้วโดยเบื้องต้น จัดคิวบริการ 100 -200 คน แต่ประชาชนเพิ่มจำนวนมากขึ้น มากกว่าวันละ 300 คน จึงต้องมีการจัดทำบัตรคิวเพื่อลดความแออัด โดยพื้นที่เขตราษฎร์บูรณะ มีประชาชนอาศัยกว่า 180,000 คน และ ทุกคนได้รับผลกระทบทั้งหมด. โดยการจัดทำบัตรคิวก็เปิดจองคิวล่วงหน้าจนถึง 28 ก.ย. แล้ว ส่วนการแนะนำเลือกสถานพยาบา ประสานเจ้าหน้าที่สปสช. ดำเนินการเอง เนื่องจากเกรงผิดพลาด
นพ.ศักดิ์ชัย กาญจนวัฒนา เลขาธิการสปสช. ลงพื้นที่สำนักงานเขตราษฎร์บูรณะ เช่นกัน โดยขอโทษประชาชนถึงความล่าช้าในการแก้ไขปัญหา และระบบ ซึ่งจะพยายามเร่งจัดหาคลินิกมารองรับประชาชนให้เณ้วที่สุด เบื้องต้นมีคลินิกมาสมัครร่วมเป้นคลินิกคู่สัญญาเพิ่มเติม อีก 10-20 แห่ง อยู่ระหว่างการดำเนินงาน คาดว่า 1-2 เดือนจกะสามารถหาคลินิกทดแทนได้ทั้งหมด เพื่อแก้ปัญหา ยอมรับ มีประชาชนได้รับกระทบจำนวนมาก เกือบ 2 ล้านคน ทั้งนี้พยายามแก้ไขปัญหาทั้งการจัดทำระบบข้อมูลผู้ป่วย ดึงฐานข้อมูล ประวัติการรักษาพยาบาลของคนไข้ มาไว้กับฐานข้อมูลของสปสช. แล้ว เพียงประชาชนเซนต์ชื่อยินยอมเปิดเผยข้อมูล ก็ไม่จำเป็นต้องไปขอเวชระเบียนที่สถานพยาบาลเดิม และไม่ต้องเสียเงิน ส่วนการรักษาระหว่างที่จัดไม่ได้สถานพยาบาล ประชาชน สามารถเข้ารับบริการได้ทุกที่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยทางสปสช. และเป็นผู้รับผิดชอบเองทั้งหมด ในกรณีไปรับการรักษายังสถานพยาบาลอื่นในระบบหลักประกันสุขภาพ
ทั้งนี้การยกเลิกคลินิกคู่สัญญา ที่พบทุจริต สวมสิทธิ์รักษา 82 แห่ง แบ่งเป็นการตรวจสอบรอบแรกพบทุจริต ยกเลิกบริการใน สถานพยาบาลหรือคลินิก 18 แห่ง รอบที่ 2. ตรวจสอบ.พบทุจริต และยกเลิกบริการ ใน คลินิก และ สถานพยาบาล. 64 แห่ง ส่วนใหญ่เป็นหน่วยบริการในพื้นที่แถบฝั่งธนบุรี ราษฎร์บูรณะ บางขุนเทียน บางคอแหลม และบางแค
.-สำนักข่าวไทย