วอชิงตัน 9 ก.ย. – แอสตราเซเนกา บริษัทยาและเภสัชภัณฑ์ของอังกฤษตัดสินใจหยุดการทดลองทางคลินิกแบบสุ่มของวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 หลังอาสาสมัครรายหนึ่งมีอาการป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ
แอสตราเซเนกาอยู่ในระหว่างการพัฒนาวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ร่วมกับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดของอังกฤษ และถือเป็นตัวเต็งที่มีโอกาสผลิตวัคซีนสำเร็จเป็นรายแรกของโลก โฆษกของบริษัทยาชื่อดังของอังกฤษเผยว่า ในฐานะที่บริษัทเป็นส่วนหนึ่งในการทดลองแบบสุ่มและควบคุมของวัคซีนมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด กระบวนการทบทวนตามมาตรฐานได้เริ่มขึ้น และทำให้ต้องตัดสินใจหยุดการทดลองวัคซีนเพื่อทบทวนข้อมูลด้านความปลอดภัยโดยคณะกรรมการอิสระ พร้อมยืนยันว่า เป็นเรื่องปกติในการทดลองวัคซีนที่จะตรวจพบอาสาสมัครที่มีอาการป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ โดยบริษัทได้ดำเนินการตรวจสอบอาการป่วยดังกล่าวแล้วเพื่อรักษาความสมบูรณ์ของการทดลอง และระบุเพิ่มเติมว่า บริษัทกำลังเร่งทบทวนในแต่ละขั้นตอนเพื่อลดผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นได้ในช่วงการทดลอง ขณะที่ยังไม่มีการเปิดเผยข้อมูลที่ชัดเจนว่าอาสาสมัครคนดังกล่าวอยู่ที่ไหน หรือมีอาการป่วยทั่วไปหรือรุนแรงเพียงใด
การระงับการทดลองทางคลินิกไม่ใช่เรื่องผิดปกติแต่อย่างใด แต่ถือเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นในการทดลองทางคลินิกของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ทั้งนี้ แอสตราเซเนกาเป็น 1 ใน 9 บริษัทที่อยู่ในช่วงท้ายของการทดลองทางคลินิกระยะที่ 3 โดยประกาศรับอาสาสมัคร 30,000 คนจากหลายสิบพื้นที่ของสหรัฐเข้าร่วมทดลองฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา. – สำนักข่าวไทย