กรุงเทพฯ 3 ก.ย. – กลุ่มอุตสาหกรรมเคมี ส.อ.ท.เปิดเวทีเสวนา ดึงนักวิชาการถกบทบาท “เคมี..พระเอกหรือผู้ร้าย” ระบุการใช้สารเคมีอย่างถูกต้องและบริหารจัดการอย่างรับผิดชอบต่อสังคม คือ หัวใจของการขับเคลื่อนประเทศ
กลุ่มอุตสาหกรรมเคมี สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) พร้อมนักวิชาการทั้งภาครัฐและเอกชน ร่วมเสวนา “เคมี..พระเอกหรือผู้ร้าย” ซึ่งในวงเสวนาต่างให้ความเห็นว่าเคมีมีความสำคัญต่อการดำรงชีวิตของมนุษย์และการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้เจริญก้าวหน้า พร้อมระบุไม่มีสารเคมีใดที่ไม่เป็นอันตราย ขึ้นอยู่กับการบริหารจัดการและการรู้จักใช้สารเคมีอย่างรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งนี้ ในวงเสวนาเชื่อว่าแนวคิดการบริหารจัดการเคมีจะเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนการใช้เคมี เพื่อประโยชน์ของประเทศในอนาคต
นายเกรียงไกร เธียรนุกุล รองประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า ไทยส่งออกเคมีภัณฑ์ปี 2562 มูลค่ากว่า 102,000 ล้านบาท สูงเป็นอันดับ 7 ของมูลค่าการส่งออกทั้งประเทศ และนำเข้าเคมีภัณฑ์เพื่อนำมาใช้เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับอุปโภคบริโภค คิดเป็นมูลค่ากว่า 480,000 ล้านบาท คิดเป็นอันดับ 4 ของสินค้าที่มีการนำเข้าของไทย การเสวนาครั้งนี้ต้องการให้สังคมไทยมองเห็นแง่มุมทั้ง 2 ด้านของเคมี เพื่อความเข้าใจในการใช้เคมีอย่างถูกต้อง
นายเจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เปิดเผยว่า สารเคมีเป็นได้ทั้งพระเอกและผู้ร้าย ขึ้นอยู่กับระดับของความเป็นพิษและปริมาณที่ได้รับเข้าไป เช่น ถ้าได้รับสารหนูเข้าไปแค่ 52 มิลลิกรัมก็ถึงตายได้ ขณะเดียวกันถ้าดื่มน้ำเปล่าเข้าไป 6 ลิตร ภายในเวลา 1 ชั่วโมง คน ๆนั้นก็มีสิทธิ์ที่จะตายได้เช่นกัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าทั้งสารหนูและน้ำเปล่าเป็นอันตรายได้ทั้งคู่ขึ้นอยู่กับปริมาณที่ได้รับเข้าไป ดังนั้น การใช้สารเคมีแต่ละชนิดจึงควรใช้เท่าที่จำเป็นและใช้ในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อจะไม่ส่งผลเสียต่อชีวิตและสิ่งแวดล้อม
นางจรรยา มณีโชติ นายกสมาคมวิทยาการวัชพืชแห่งประเทศไทย ให้ความเห็นว่า การให้ความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องในการใช้สารเคมีกำจัดศัตรูพืชแก่เกษตรกรและสนับสนุนเกษตรปลอดภัยจะเป็นทางออกที่ถูกต้องและยั่งยืนสำหรับภาคเกษตรไทย.-สำนักข่าวไทย