กทม. 30 ส.ค.-ยุทธพงศ์ ชี้กระบวนการจัดซื้อเรือดำน้ำส่อขัด รธน.หลายมาตรา เรียกร้อง พล.อ.ประวิตร เปิดสัญญาการจัดซื้อระหว่างไทย-จีน
นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะรองประธานอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน ในกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2564 กล่าวถึงการจัดซื้อเรือดำน้ำสองลำของกองทัพเรือ ว่า ตนยืนยันจะต่อสู้เพื่อยับยั้งไม่ให้จัดซื้อ ทั้งนี้ในวันที่ 31 ส.ค. เวลา 09.00น. ต้องติดตามการประชุมกมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯว่าจะมีการดึงเกมเรื่องนี้อออกไปอีกหรือไม่ อีกทั้งในรายงานของคณะอนุกมธ.ครุภัณฑ์ฯ มีสาระสำคัญในหน้า 17 ที่ระบุว่าสัญญาการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) และบันทึกการเจรจา ไม่มีข้อผูกมัดในการเลื่อนการจัดซื้อเรือดำน้ำ หมายความว่าสามารถเลื่อนได้ แต่มีความพยายามบอกว่าเลื่อนไม่ได้ เพราะจะโดนค่าปรับ
นายยุทธพงศ์ กล่าวว่าจะนำรัฐธรรมนูญมาต่อสู้ ถ้ารัฐบาลที่ดึงดันจะผ่านเรือดำน้ำให้ได้ เพราะเงินซื้อเรือดำน้ำมาจากภาษีประชาชน ทำไมไม่นำเงินมาช่วยประชาชนก่อนโดยเฉพาะด้านสาธารณสุขและโควิด-19 พร้อมขอเรียกร้องพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่บอกว่ามีเอกสารครบถ้วน ถ้าเรื่องนี้เป็นการรทำสัญญาแบบจีทูจีต้องมีหนังสือรับมอบอำนาจฉบับเต็มจากรัฐบาลไทยและรัฐบาลจีนไปลงนาม การมอบอำนาจให้พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผบ.ทร. ในฐานะเสนาธิการทหารเรือไปลงนามแทนนั้น ขอให้พล.อ.ประวิตรนำมาแสดง แต่ตนคิดว่าไม่มีหนังสือดังกล่าว อีกทั้งถ้าเป็นจีทูจีจริงจะเข้าข่ายรัฐธรรมนูญมาตรา 178 ที่ระบุว่าสัญญาที่อาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคมและความมั่นคงของรัฐ ต้องได้รับความเห็นชอบจากรัฐสภาภายใน 60 วันนั้น ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วยังไม่เคยมีเรื่องดังกล่าวทั้งจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) และรัฐสภาที่มาจากการเลือกตั้งจึงส่อขัดมาตรา 178
นายยุทธพงศ์ระบุส่วนตัวสงสัยว่าไม่ใช่การซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐจริง และไม่เคยเห็นรัฐบาลจีนส่งใบเสนอขายเรือดำน้ำมาให้รัฐบาลไทย และเมื่อไปดูสัญญาการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรก มีการจ่ายเงินให้ไปบริษัท China Shipbuilding & Offshore International (choc) ซึ่งเป็นบริษัทเอกชน ทำไมไม่มีการโอนเงินไปให้กระทรวงการคลังหรือกระทรวงกลาโหมของจีน และบริษัทดังกล่าวก็ไม่มีใบมอบอำนาจจากรัฐบาลจีน จึงมีความผิดปกติ และที่ผ่านมากองทัพเรือชี้แจงไม่ละเอียดเรื่องการลงนามจีทูจี ทั้งนี้ หากพยายามดึงดันให้ผ่าน กมธ.งบประมาณฯ ตนจะเสนอพรรคเพื่อไทยยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความ โดยเปรียบเทียบกับ พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้านบาทสมัยรัฐบาลน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ศาลรัฐธรรมนูญตีความตกไป ที่สำคัญ โครงการใหญ่ขนาดนี้ ยังไม่เคยเห็นพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตี แบประธานนาธิบดี สี จิ้น ผิง เซ็นร่วมมือกันเรื่องเรือดำน้ำเลย.-สำนักข่าวไทย