เรื่องต้องรู้! ของคนขับรถกับอัตราค่าปรับจราจรใหม่!

สำนักข่าวไทย 30 ส.ค. – คุณใช้รถใช้ถนนทุกวันใช่หรือไม่ เราจะมาพูดถึงเรื่องต้องรู้ของผู้ใช้รถใช้ถนนกับการปรับอัตราค่าปรับจราจรใหม่กัน

เรื่องต้องรู้! ของคนขับรถกับอัตราค่าปรับจราจรใหม่! มีผลตั้งแต่วันที่ 26 สิงหาคม 2563 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ลงนามโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา เรื่อง การกำหนดจำนวนค่าปรับตามที่เปรียบเทียบสำหรับความผิด ตามพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ. 2522 พ.ศ. 2563

– ไม่พกใบขับขี่ อัตราเดิม คือ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท อัตราใหม่ คือ 200 บาท
– จอดในที่ห้ามจอด อัตราเดิม คือ ปรับไม่เกิน 500 บาท อัตราใหม่ คือ 400 บาท
– ไม่สวมหมวกกันน็อค อัตราเดิม คือ ปรับไม่เกิน 500 บาท อัตราใหม่ คือ 400 บาท
– คนซ้อนไม่สวมหมวกกันน็อค อัตราเดิม คือ ปรับไม่เกิน 500 บาท อัตราใหม่ คือ 800 บาท
– ฝ่าสัญญาณไฟแดง อัตราเดิม คือ ปรับไม่เกิน 1,000 บาท อัตราใหม่ คือ 500 บาท
– ขับเร็วเกินกำหนด อัตราเดิม คือ ปรับตั้งแต่ 200-500 บาท อัตราใหม่ คือ 500 บาท
– ขับขี่บนทางเท้า อัตราเดิม คือ ปรับตั้งแต่ 400-1,000 บาท อัตราใหม่ คือ 500 บาท

*ทั้งนี้ยังมีการใช้ใบสั่งแบบใหม่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ใบสั่งใหม่มี 2 แบบ คือ

แบบที่ 1

ใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้ผู้ขับขี่ ติด ผูก หรือแสดงไว้ที่รถ ชุดละ 4 แผ่น มีสีและวัตถุประสงค์สำหรับการใช้งาน แผ่นที่ 1 เป็นสีขาว ใช้สำหรับให้ผู้ขับขี่ ติด ผูก หรือแสดงไว้ที่รถ แผ่นที่ 2 เป็นสีเหลือง ใช้สำหรับส่งให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่เปรียบเทียบปรับคดีจราจรเพื่อบันทึกข้อมูลใบสั่งในเครื่องคอมพิวเตอร์ของระบบสารสนเทศกลางที่เชื่อมโยงข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แผ่นที่ 3 เป็นสีชมพู ใช้สำหรับมอบให้พนักงานสอบสวน และแผ่นที่ 4 เป็นสีฟ้า ใช้สำหรับเป็นสำเนาคู่ฉบับเก็บไว้เป็นหลักฐานสำหรับผู้ออกใบสั่ง


แบบที่ 2

เป็นใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับส่งทางไปรษณีย์ มีชุดละ 2 แผ่น แผ่นที่ 1 ใช้สำหรับส่งไปรษณีย์ให้ผู้ขับขี่เจ้าของ หรือผู้ครอบครองรถ แผ่นที่ 2 ใช้สำหรับเป็นสำเนาคู่ฉบับเก็บไว้เป็นหลักฐาน สำหรับผู้ออกใบสั่ง

แต่ทางที่ดีที่สุดเราควรทำตามกฎระเบียบ เพื่อความปลอดภัยต่อตนเอง และ เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆด้วยนะคะ ด้วยความห่วงใยจากสำนักข่าวไทย-.


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

“เหนือ-อีสาน-กลาง” อากาศเย็น ภาคใต้ฝนตกหนัก

กรมอุตุฯ รายงานภาคเหนือ อีสาน และภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า มีฝนเล็กน้อยบางแห่ง ส่วนภาคใต้ฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง