ใบสั่งค่าปรับจราจรรูปแบบใหม่เริ่ม 1 พ.ย.นี้

กรุงเทพฯ 26 ส.ค.- ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้เป็นต้นไป จะเริ่มใช้ใบสั่งค่าปรับจราจรรูปแบบใหม่ ที่สามารถจ่ายค่าปรับผ่านธนาคาร และสถานีตำรวจ


เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษาเผยแพร่ประกาศสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ลงนามโดย พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เรื่องกำหนดแบบใบสั่งเจ้าพนักงานจราจร ใบสั่งแบบเดิมจะสิ้นสุดในวันที่ 31 ตุลาคม และจะใช้ใบสั่งแบบใหม่จะเริ่มใช้ในวันที่ 1 พฤศจิกายนนี้ ใบสั่งใหม่มี 2 แบบ คือ

แบบที่ 1 ใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับให้ผู้ขับขี่ ติด ผูก หรือแสดงไว้ที่รถ ชุดละ 4 แผ่น มีสีและวัตถุประสงค์สำหรับการใช้งาน แผ่นที่ 1 เป็นสีขาว ใช้สำหรับให้ผู้ขับขี่ ติด ผูก หรือแสดงไว้ที่รถ แผ่นที่ 2 เป็นสีเหลือง ใช้สำหรับส่งให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่เปรียบเทียบปรับคดีจราจรเพื่อบันทึกข้อมูลใบสั่งในเครื่องคอมพิวเตอร์ของระบบสารสนเทศกลางที่เชื่อมโยงข้อมูลของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แผ่นที่ 3 เป็นสีชมพู ใช้สำหรับมอบให้พนักงานสอบสวน และแผ่นที่ 4 เป็นสีฟ้า ใช้สำหรับเป็นสำเนาคู่ฉบับเก็บไว้เป็นหลักฐานสำหรับผู้ออกใบสั่ง


แบบที่ 2 เป็นใบสั่งเจ้าพนักงานจราจรสำหรับส่งทางไปรษณีย์ มีชุดละ 2 แผ่น แผ่นที่ 1 ใช้สำหรับส่งไปรษณีย์ให้ผู้ขับขี่เจ้าของ หรือผู้ครอบครองรถ แผ่นที่ 2 ใช้สำหรับเป็นสำเนาคู่ฉบับเก็บไว้เป็นหลักฐาน สำหรับผู้ออกใบสั่ง

ทั้งนี้ ผู้กระทำผิดสามารถชำระปรับผ่านทางธนาคารกรุงไทยได้ทุกสาขาทั่วประเทศ หรือผ่านแอปพลิเคชัน KTB net bank หลังถูกออกใบสั่ง 2 วันทำการ แต่ไม่ต้องกังวลว่าจะเลยเวลาชำระค่าปรับ เพราะใบสั่งมีอายุ 7 วัน หรือหากผู้กระทำผิดต้องการจ่ายเงินค่าปรับที่สถานีตำรวจท้องที่ ก็สามารถดำเนินการได้ทันที

หากประชาชนเห็นว่าการแจ้งข้อหาจราจร หรือการออกใบสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย สามารถปฏิเสธข้อหาได้ ซึ่งตำรวจจะบันทึกข้อมูลการปฏิเสธด้านหลังใบสั่ง โดยมีเหตุผล 3 ข้อ คือ ไม่ได้เป็นผู้กระทำความผิดตามที่ถูกกล่าวหา ไม่ได้เป็นผู้ขับขี่ในขณะที่เกิดเหตุ และรถยนต์คันที่เกิดเหตุมิใช่รถยนต์ของท่าน โดยผู้ได้รับใบสั่งนำใบสั่งและพยานหลักฐานไปแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ออกใบสั่ง หรือแจ้งต่อพนักงานสอบสวน เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและดำเนินการตามกฎหมายภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับใบสั่ง ซึ่งหากผู้ได้รับใบสั่งไม่ได้กระทำผิดจริง จะดำเนินการยกเลิกให้.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รับชันสูตรศพ “ผกก.โจ้” ยาก เหตุศพไม่อยู่สภาพเดิม

ผู้ช่วย ผบ.ตร. รับชันสูตรศพ ผกก.โจ้ ยาก เพราะศพไม่อยู่ในสภาพเดิม ยันดูวงจรปิดไม่พบพิรุธ ยังยิ้มแย้มทักทายผู้ต้องขัง ยกมือไหว้ผู้คุม แต่พบเลือดหยดข้างศพ และแขนซ้ายมีรอยกัดของสัตว์ขนาดเล็ก

โผล่อีก 2 ราย! เหยื่อสาวแบงก์แอบถอนเงินลูกค้า

กรณีสาวแบงก์ แอบถอนเงินลูกค้า 8 ล้านบาท สารภาพเอาไปซื้อบ้าน-รถ และส่งลูกเรียนต่างประเทศ ล่าสุด เหยื่อโผล่แจ้งความเพิ่มอีก 2 ราย วงเงิน 2 ล้าน ยอดรวมเสียหายถึง 10 ล้านบาท

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหารช่วยเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ผบ.ทบ. สั่งระดมทหาร พร้อมกำลังพลจิตอาสากองทัพบก เข้าช่วยอำนวยความสะดวกด้านการจราจร และอพยพผู้ป่วย จากเหตุเพลิงไหม้ รพ.รามาธิบดี

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยภาคเหนืออากาศร้อนจัด-ฝนฟ้าคะนอง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ มีอากาศร้อนจัด โดยมีฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% กับมีลมกระโชกแรงบางแห่ง

เปิดโปง สร้างคดีอุบัติเหตุเป็นฆาตกรรมหวังเงินประกัน

คดีฆาตกรรมสะเทือนขวัญ อำพรางเพื่อหวังเงินประกัน 14 ล้านบาท ที่ จ.สกลนคร เมื่อคดีพลิกจากอุบัติเหตุ เป็นการลวงผู้เสียชีวิตไปฆ่า ซึ่งบริษัทประกันภัยพบข้อพิรุธหลายอย่าง จนนำไปสู่การร้องให้ตำรวจรื้อฟื้นคดีจนจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดพร้อมขยายผลไปถึงเจ้าของสำนวน ความซับซ้อนของคดีนี้เป็นอย่างไร ติดตามจากรายงาน

“บิ๊กอ๊อด” พร้อมสู้คดีชี้แจงทุกเรื่องในชั้นศาล

รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมเป็นคนกลางไกล่เกลี่ย กรณีสมาคมฟุตบอลฯ กับ สยามสปอร์ต ด้าน พล.ต.อ.สมยศ อดีตนายกสมาคมยืนยันพร้อมสู้คดีในชั้นศาล หาก “มาดามแป้ง” ฟ้องเรียกคืน 360 ล้านบาท

สภาฯ หมื่นล้าน ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก

สภาฯ หมื่นล้านแตกอีกแล้ว! รอบนี้ ‘ท่อน้ำฝ้าเพดาน’ แตก น้ำไหลเจิ่งนองลงมายังอาคารจอดรถชั้นใต้ดินบี 1 ระดมแม่บ้านทำความสะอาด-จัดระเบียบอำนวยความสะดวก จนท.รุดซ่อมแซม