รัฐบาลเตรียมออกซอฟท์โลนช่วย 7 สายการบิน

ทำเนียบรัฐบาล 28 ส.ค.-นายกฯ เปิดเวทีหารือผู้บริหาร 7 สายการบิน รับปากออกซอฟท์โลน วงเงิน 24,000 ล้านบาทเดือนตุลาคมนี้ เน้นดูแลพนักงาน


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหารือกับคณะผู้บริหารสายการบินในประเทศ 7 แห่ง นำโดยนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหารของไทยแอร์เอเชีย พร้อมผู้บริหารสายการบินอื่น ได้แก่ สายการบินไทยแอร์เอเชีย ไทยแอร์เอเชียเอ็กซ์ ไทยสมายล์ แอร์เวย์ ไลอ้อนแอร์ ไทยเวียดเจ๊ท บางกอกแอร์เวย์และนกแอร์ เพื่อหามาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจการบิน จากผลกระทบการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เป็นห่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกับผู้ประกอบการสายการบินทุกแห่ง โดยเฉพาะสภาพคล่องการจ้างงานบุคคลากรแต่ละสายการบิน ในขณะที่รัฐบาลผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้ภาคธุรกิจบริการเริ่มดำเนินการได้ ขณะนี้การจัดเก็บรายได้ประเทศไทยลดลง เช่นเดียวกับต่างประเทศ จึงเป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายจะต้องมาหารือกันเพื่อหาทางออก


ภายหลังการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหารของไทยแอร์เอเชีย กล่าวว่า ผู้ประกอบการขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องการปล่อยสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือ ซอฟท์โลน รวมถึงการขยายระยะเวลาลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันและเชื้อเพลิงที่ใช้สำหรับเครื่องบินไอพ่น การยกเว้นและการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการดำเนินงานในสายการบิน เช่น เรื่อง packing free / landing free ค่าเซอร์วิสชาร์ตต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับผู้โดยสารและการอำนวยความสะดวกด้านการจราจรทางอากาศ

นายธรรศพลฐ์ กล่าวว่า วันนี้ถือว่ายิ้มออก เพราะนายกรัฐมนตรีรับปากว่าจะช่วยเหลือสายการบินต่าง ๆ ซึ่งก่อนหน้านี้นายกรัฐมนตรีขอให้ช่วยดูแลพนักงานก่อน โดยนายกรัฐมนตรีและปลัดกระทรวงคมนาคมยืนยันว่าจะช่วยเหลือเรื่องซอฟท์โลนและค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ของท่าอากาศยานหรือของวิทยุการบิน โดยจะรีบดำเนินการภายในเดือนตุลาคมนี้และจะต่ออายุให้อีก 1 ปี โดยจะขยายเพิ่มไปจนถึงมีนาคมปี 2565

“ซอฟท์โลนที่ 7 สายการบินขอรวมกันเป็นจำนวน 24,000 ล้านบาท โดยขอผ่อนชำระ 5 ปี ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ เนื่องจากคิดว่าซอฟท์โลนที่ได้มาจะสามารถช่วยพยุงกิจการสายการบินได้ เพราะเชื่อว่าการท่องเที่ยวน่าจะกลับมาฟื้นตัวได้ภายใน 1 ปี โดยคาดว่าซอฟท์โลนที่ได้จากรัฐบาลจำนวนครึ่งหนึ่งจะนำไปจ่ายเงินให้พนักงานทั้ง 7 สายการบินทั้งหมดรวมกันประมาณ 2 หมื่นคน ส่วนอีกครึ่งจะนำไปใช้จ่ายทั่วไป” นายธรรศพลฐ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สาวซิ่งรถหรูชนท้าย จยย. ทำแม่ลูกดับ 3 ศพ

แม่ขี่ จยย.ไปรับลูก 2 คน กลับจากเรียนพิเศษ ถูกสาวขับรถหรูซิ่งชนท้าย ร่างกระเด็นตกสะพานข้ามรางรถไฟ เสียชีวิตทั้ง 3 คน ส่วนผู้ก่อเหตุอุ้มแมว ทิ้งรถ หลบหนีไป

ปิดล้อมล่ามือปืนคลั่งสังหาร 3 ศพ

ตำรวจเร่งไล่ล่ามือปืนคลั่งก่อเหตุยิง 3 ศพ ในพื้นที่ จ.หนองบัวลำภู ล่าสุดปิดล้อมพื้นที่กว่า 1,000 ไร่ รอยต่อ จ.เลย หลังพบเบาะแสคนร้ายหนีไปซ่อนตัว ขณะที่ชนวนสังหารยังไม่แน่ชัด

ลูกชายมือปืนคลั่งยิง 3 ศพ พาครอบครัวหนีตาย พ่อโพสต์ขู่ฆ่าล้างครัว

ลูกชายมือปืนคลั่งยิงดับ 3 ศพ ต้องพาภรรยาและลูก รวมถึงพ่อตา-แม่ยาย หนีไปอยู่ที่หมู่บ้านแห่งหนึ่ง หลังพ่อโพสต์ข้อความขู่จะฆ่าล้างครัว เหตุจากปัญหาในครอบครัว

ชายคลั่งยิง3ศพ

ชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ โผล่วัดที่ จ.เลย ขอข้าวกิน ก่อนหนีเข้าป่า

แม่ครัววัดภูคำเป้ ต.ผาสามยอด อ.เอราวัณ จ.เลย เผยพบชายคลั่งยิงดับ 3 ศพ เดินเข้ามาในวัดด้วยสภาพอิดโรย ขอข้าวกิน ลักษณะรีบกินเหมือนวิตกกังวล หลังกินเสร็จรีบเดินเข้าป่าหายไป ก่อนมาทราบภายหลังว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต

ข่าวแนะนำ

น้ำท่วมรอบนอก อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา วิกฤติ

ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ทำให้สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้น แต่ในพื้นที่ไข่แดงหรือพื้นที่เศรษฐกิจ น้ำยังไม่สามารถจะเจาะเข้าไปได้ โดยนายกเทศมนตรีเทศบาลนครหาดใหญ่มั่นใจถ้าฝนตกลงมาไม่มากไปกว่านี้จะสามารถดูแลพื้นที่ในเทศบาลนครหาดใหญ่

ปัตตานีจมบาดาล-ถนนถูกตัดขาด

สถานการณ์น้ำท่วมภาคใต้ยังวิกฤติในหลายจังหวัด เพราะฝนยังไม่หยุดตก ทำให้การระบายน้ำแทบไม่สามารถทำได้เลย โดยเฉพาะในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ ชาวบ้านเดือดร้อนหนักหลายแสนคน

เร่งรื้อถอนคานถล่ม ถ.พระราม 2 จราจรติดขัดหนัก

เหตุแผ่นยกคานปูนและเครนก่อสร้างถล่มบนถนนพระราม 2 จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยังคงรื้อถอนโครงสร้างที่พังถล่มไม่แล้วเสร็จ ส่วนสาเหตุยังไม่ทราบแน่ชัด ขณะที่การจราจร ถ.พระราม 2 ทั้งขาเข้า-ขาออก ติดขัดหนัก แนะเลี่ยงเส้นทาง

นายกฯ สั่งระดมช่วยน้ำท่วมใต้-เร่งเยียวยา

นายกฯ สั่งระดมช่วยเหลือน้ำท่วมใต้-เร่งมาตรการเยียวยา เผย ครม.เห็นชอบ 39 โครงการฟื้นฟูพื้นที่อุทกภัย เชียงใหม่-เชียงราย 641 ล้านบาท