กำหนดกรอบเงินกองทุนอนุรักษ์ฯ ปี 64 จ้างงานไม่ต่ำกว่า 5 พันคน

กรุงเทพฯ 26 ส.ค. – บอร์ดกองทุนอนุรักษ์ฯ อนุมัติงบปี 63 หั่นกว่าครึ่งเหลือ 2,067 ล้านบาท กว่า 4 พันโครงการ คาดรายได้หดกว่า 500 ล้านบาท จากยอดใช้น้ำมันหดลงตามผลโควิด-19 ส่วนปี 64 กรอบวงเงินส่งเสริม 1 หมื่นล้านบาท เน้นการจ้างงานไม่ต่ำกว่า 5 พันคน


นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน แถลงผลประชุมคณะกรรมการกองทุนเพื่อส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน ซึ่งมีนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน  เป็นประธาน  ในวันนี้ (26 ส.ค.) ว่า ที่ประชุมได้อนุมัติโครงการที่ขอรับการสนับสนุนเงินจากกองทุนฯ ประจำปีงบประมาณ 2563  จำนวน 1,035 โครงการ วงเงินที่ให้การสนับสนุน 2,067 ล้านบาท จากกรอบวงเงินที่กำหนดเดิมจะอนุมัติ 5,600 ล้านบาท จำนวน กว่า 5,000 โครงการ โดยโครงการที่ไม่ได้รับการอนุมัติ เพราะเดิมมีความซ้ำซ้อน ไม่ผ่าน 7 หลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น กลุ่มสาธิตต้นแบบไม่ใช่เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย โครงการไม่ผ่านเกณฑ์เศรษฐกิจฐานรากอย่างแท้จริง ซึ่งขั้นตอนต่าง ๆ กว่าจะเริ่มโครงการได้ภายในวันที่ 29 กันยายนและต้องย้ำว่าต้องปฏิบัติตามงบเบิกจ่ายของทางราชการ คือ ก่อหนี้ผูกพันหรือต้องลงนามในสัญญาจัดซื้อจัดจ้างให้เสร็จภายใน 135 วัน ไม่เช่นนั้นจะถูกยกเลิกโครงการ โดยวงเงินที่ได้รับอนุมัติมี 2 งานหลัก ประกอบด้วย 1.แผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน อนุมัติทั้งหมด 16 โครงการ กรอบวงเงินสนับสนุน 535 ล้านบาท  ,แผนพลังงานทดแทน  1,019 โครงการ กรอบวงเงินสนับสนุน 1,530 ล้านบาท

สำหรับงบปี 2564 ตามกรอบวงเงินสนับสนุน 10,000 ล้านบาท นายสุพัฒนพงษ์ ได้กำหนดให้ปรับปรุงหลักการณ์ทำงานใหม่ให้เสร็จสิ้นภายในกลางเดือนกันยายน โดยให้เน้นการจ้างงาน สร้างรายได้เพื่อแก้ไขวิกฤติการณ์ตกงานจากโควิด-19 ให้ช่วยสร้างความรู้ ความสามารถในการเก็บข้อมูล เพื่อให้กระทรวงฯ มีฐานข้อมูลในการจัดทำสารสนเทศน์ที่เหมาะสม คาดจะจ้างงานไม่ต่ำกว่า 5,000 คน และอีกส่วนหนึ่งให้  กระทรวงกำหนดเป้าหมายหรือผลลัพธ์ในการพัฒนางานวิจัยและพัฒนาว่าต้องการให้เกิดงานด้านใด แล้วร่วมมือกับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (อว.) เพื่อลงนามข้อตกลงร่วมกันว่าจะทำด้านใด แล้วให้แต่ละสถาบันเสนองบตามกรอบดังกล่าว ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงไปจากอดีตที่แต่ละสถาบันเสนอโครงการมาแล้วมาตัดงบฯ ในภายหลัง ขณะเดียวกันจะมีการพิจารณาเรื่องงบฯ ของผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่เป็นตามกรอบอนุรักษ์พลังงานด้วย


“กองทุนอนุรักษ์ฯ ปี 2563 คาดว่ารายได้การจัดเก็บคงอยู่ที่ประมาณ 3,000 ล้านบาท จากปกติได้ไม่ต่ำกว่า 3,500 ล้านบาท/ปี ซึ่งรายได้น้อยลงมาจากล็อกดาวน์ป้องกันโควิด-19 แต่ขณะนี้การใช้น้ำมันเพิ่มขึ้นรายได้กองทุนฯ ก็เริ่มเข้ามา” ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าว

ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การเน้นเรื่องการจ้างงานในส่วนของกระทรวงฯ วันศุกร์นี้จะหารือกับอธิบดีทั้ง 4 กรมในกระทรวง บมจ.ปตท. และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ว่าจะมีแผนเร่งจ้างงานได้มากน้อยเพียงใด ซึ่งเป็นการตอบสนองต่อนโยบายของนายสุพัฒนพงษ์ ที่ให้ขอความร่วมมือทั้งภาครัฐและเอกชนร่วมทำแผนงานนี้

ส่วนโรงไฟฟ้าชุมชนที่จะมีการเดินหน้ารับซื้อ 100-200 เมกะวัตต์ ขณะนี้กำลังเข้าไปดูว่าพื้นที่สายส่งของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค จุดใดพร้อมรองรับ โดยดูควบคู่ไปกับสัญญาการซื้อสินค้าเกษตรกร หรือคอมแทร็กต์ฟาร์มมิ่ง รวมถึงการพิจารณาพื้นที่ผังเมืองตามกรอบของกรมโยธาธิการ ว่าพื้นที่สีเขียวสำหรับปลูกพืชพลังงาน พื้นที่สีม่วงสำหรับการสร้างโรงไฟฟ้ามีความสัมพันธ์กันมากน้อยเพียงใด โดยจะมีการประชุมติดตามเรื่องนี้สัปดาห์หน้า.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นักธุรกิจสาวแจ้งความทนายดัง “ฉ้อโกง” ฮุบเงิน 71 ล้าน

นักธุรกิจสาว อดีตลูกความทนายดัง แจ้งความถูกทนายดังฉ้อโกง ฮุบเงิน 71 ล้านบาท เผยถูกหลอกให้ลงทุนซื้อแพลตฟอร์ม “หวยออนไลน์”

สาวแจ้งความภรรยาอดีตบิ๊กตำรวจ ย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ

หญิงสาวแจ้งความภรรยาอดีตตำรวจยศนายพล แอบกิ๊กสามี แถมย่องลักทรัพย์ในคอนโดฯ มูลค่าหลายล้านบาท ด้านตำรวจเรียกผู้เสียหายสอบเพิ่ม พร้อมเก็บภาพวงจรปิดตรวจสอบแล้ว

“ทนายบอสพอล” มองยึดมือถือ พนง.ดิไอคอน เกินเส้นกฎหมาย

“ทนายบอสพอล” พาพนักงานดิไอคอน ลงบันทึกประจำวัน หลังตำรวจบุกค้น 11 จุด และยึดมือถือ มองว่าทำเกินกว่ากฎหมาย พร้อมฝากถึงศาลยุติธรรมในการออกหมายจับรอบ 2 เป็นห่วงสิทธิของทุกฝ่าย

ข่าวแนะนำ

ครบ 20 ปี เหตุจลาจลคดีตากใบ จำเลยยังล่องหน

วันนี้ครบรอบ 20 ปี เหตุจลาจลหน้า สภ.ตากใบ จ.นราธิวาส และยังเป็นวันที่คดีหมดอายุความ ในขณะที่การติดตามจับกุมตัวจำเลยยังไร้วี่แวว พาไปย้อนรอยเหตุการณ์และมุมมองของนักวิชาการต่อคดีนี้

รวบ “นัตตี้ ไดอารี่” ยูทูบเบอร์หลอกเทรดหุ้นฟอเร็กซ์

ตำรวจร่วมกับ ดีเอสไอ แถลงรับตัว “นัตตี้ ไดอารี่” กับแม่ ผู้ต้องหาหลอกเทรดหุ้นฟอเร็กซ์ มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท หลังหลบหนีไปอินโดนีเซีย และถูกตำรวจอินโดฯ จับกุม จากนี้ส่งตัวดีเอสไอดำเนินคดีต่อ