ดอนเมือง 25 ต ค.-ตำรวจร่วมกับดีเอสไอ แถลงรับตัว “นัตตี้ ไดอารี่” กับแม่ ผู้ต้องหาหลอกเทรดหุ้น มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท หลังหลบหนีไปอินโดนีเซีย และถูกตำรวจอินโดฯ จับกุม จากนี้ส่งตัวให้ดีเอสไอดำเนินคดีต่อ
พล.ต.ท.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษณ์ รอง ผบช.สตม. พล.ต.ต.อรรถสิทธิ์ สุดสงวน รอง ผบช.สอท. ร่วมกับ ร.ต.อ.วิษณุ ฉิมตระกูล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงรับตัวผู้ต้องหา 2 แม่ลูก “นัตตี้ ไดอารี่” จากประเทศอินโดนีเซีย ผู้ต้องหาหลอกเหยื่อลงทุนหุ้นมี ผู้เสียหายมากถึง 6,000 ราย มูลค่าความเสียหายกว่า 2,000 ล้านบาท มาดำเนินคดีในประเทศไทย
พล.ต.ท.ธัชชัย กล่าวว่า คดีนี้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้ส่งมอบคดีให้ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษแล้ว ในชั้นตำรวจ มีผู้ต้องหา 3 ราย ประสานตำรวจสากลอินโดนีเซียจับกุมส่งตัวให้ 2 ราย ได้แก่ น.ส.นัทธมณ หรือนัตตี้ ลีอาห์ ยูทูบเบอร์ เจ้าของช่อง Nutty’s Diary อายุ 31 ปี มี 13 หมายจับ และนางธานิยา แม่ของนัตตี้ อายุ 66 ปี 2 หมายจับ ส่วนอีก 1 รายเป็นเลขาฯ ของนัตตี้ หลบหนีอยู่ระหว่างติดตามตัว โดย ตร.ได้ส่งตัวผู้ต้องหาทั้งสองให้ ดีเอสไอดำเนินการสืบสวนต่อหลังเป็นคดีพิเศษแล้ว
สำหรับ “นัตตี้” หนีออกจากไทยไปเมื่อ ก.ค.2565 โดยออกไปทางช่องทางธรรมชาติภาคใต้ ไม่ผ่าน ตม. ไปหลบอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย จากนั้น ลักลอบเข้าอินโดนีเซีย ผ่านเกาะบาตัม จ.เกอปูเลาวันรีเยา ก่อนเดินทางไปเมืองดูไม และถูกเจ้าหน้าที่อินโดนีเซียจับกุมและเพิกถอนวีซ่าผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย ประสานสถานทูตไทยในอินโดนีเซีย และตำรวจชุดจับกุมยืนยันตัวบุคคลและผลักดันผู้ต้องหากลับไทย เบื้องต้น มีคนช่วยเหลือพาสองแม่ลูกหลบหนีออกไประหว่างหลบหนีอยู่ต่างประเทศ “นัตตี้” ไม่ได้มีอาชีพอะไร ส่วนเส้นทางทรัพย์สิน ดีเอสไอจะต้องไปขยายผล เข้าสู่กระบวนการทางฎหมายต่อไป พบว่า แม่นัตตี้ ไม่ค่อยสบาย ซึ่งวันนี้ได้มีแพทย์จาก รพ.ตำรวจมาตรวจด้วย
ด้าน ร.ต.อ.วิษณุ กล่าวว่า ความผิดแชร์ สุชาตา นัตตี้ คือหลอกลวงชักชวนคนมาลงทุนเทรด Forex ผ่านแอปไอคิว ออพชั่น ไม่มีการเทรดจริง โดยคดีนี้รับเป็นคดีพิเศษ 294/2565 มีผู้เสียหายแจ้งร้องทุกข์ ทั้งกับดีเอสไอและตำรวจไซเบอร์ ซึ่ง ตร.ได้ยึดทรัพย์ไว้ 16 ล้านบาท ส่วนดีเอสไอก็ยึดทรัพย์ไว้ด้วยบางส่วน อยู่ระหว่างประเมินมูลค่าทรัพย์สิน มีผู้กระทำผิดรวม 9 ราย 6 รายมารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว วันนี้รับตัวผู้ต้องหา 2 รายคือนัตตี้กับแม่ เหลืออีก 1 รายคือเลขาฯ ยังหลบหนี ดีเอสไอจะดำเนินคดีทางอาญา ส่วนทางแพ่งจะรวบรวมส่งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อเยียวยาผู้เสียหายต่อไป
ในการสอบสวน พบว่า วิธีเทรดใช้กลอุบาย โดย แชร์นัตตี้ สุชาตา ไปหลอกว่ามีความสามารถในการเทรด แต่ภายหลังพบว่า ทำไม่ได้จริง ไม่มีการจ่ายผลประโยชน์ตอบแทน และไม่มีการคืนเงินด้วย เป็นการตั้งใจหลอกแต่แรก คล้ายกรณี Forex3d โดยดีเอสไอได้ประสานสถาบันการเงิน ติดตามทรัพย์สิน ส่วน 13 หมายจับได้ขอให้ตำรวจส่งให้ดีเอสไอรวบรวมเป็น 1 คดีจะได้ส่งฟ้องทีเดียว
คดีนี้ ถูกศาลอาญาออกหมายจับที่ 1919/2565 ลงวันที่ 12 กันยายน ในความผิดฐาน “ร่วมกันฉ้อโกงประชาชน, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลอันเป็นเท็จ บิดเบือนหรือปลอมโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายต่อผู้อื่นหรือประชาชน, โฆษณาหรือประกาศให้ปรากฏต่อประชาชนในการกู้ยืมเงิน ว่าจะจ่ายหรืออาจจะจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนให้ในอัตราที่สูงกว่าอัตราดอกเบี้ยสูงสุดที่สถาบันการเงินจะจ่ายได้ โดยรู้อยู่แล้วว่าจะนำเงินจากผู้ให้กู้ยืมเงินรายนั้นมาจ่ายหมุนเวียนให้แก่ผู้ให้กู้ยืมเงิน หรือรู้หรือควรรู้อยู่แล้วว่า ไม่สามารถประกอบกิจการใดๆ ที่จะให้ผลประโยชน์ตอบแทนเพียงพอที่จะนำมาจ่าย และเป็นเหตุให้ได้กู้ยืมเงินไป.-119.-สำนักข่าวไทย