สุรินทร์ 24 ส.ค. – ผู้ใหญ่บ้านศรีสำโรง อ.สนม จ.สุรินทร์ หายตัวล่องหน ชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้านออกตามหาตามคำสั่งนายอำเภอให้มาสอบสวนข้อเท็จจริง แต่ติดต่อไม่ได้ สอบถามภรรยาบอกไม่รู้สามีหายไปไหน
ความคืบหน้ากรณีนางสาวอัมพรพรรณ เลไทสงค์ อายุ 35 ปี เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาว่านายสามารถ กิริยา ผู้ใหญ่บ้านศรีสำโรง อ.สนม ซึ่งมีศักดิ์เป็นอา กระทำอนาจารกับร่างกายด้วยการกัดดูดจนมีรอยฟกช้ำทั่วร่างกาย ทั้งบริเวณหน้าอก แขน ไหล่ แผ่นหลัง และแก้ม หลังจากไปร่วมนั่งดื่มเบียร์ด้วยกันในร้านอาหาร ผู้ใหญ่บ้านยังพยายามลวนลามและอนาจารด้วย และยังส่งข้อความส่งมาข่มขู่ด้วย
เมื่อผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อรับทราบข้อกล่าวหาที่อีกฝ่ายแจ้งความไว้ ด้วยสีหน้าตึงเครียด ซึ่งตำรวจยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาแต่อย่างใด เนื่องจากต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบเสียก่อน โดยเบื้องต้นผู้ถูกกล่าวหาปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พร้อมขอสู้คดีในชั้นศาล และให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนสั้นๆ ว่ามีสื่อบางสำนักนำเสนอข่าวเกินความจริง โจมตีตนเองฝ่ายเดียว ตนขอสู้คดี เอาความถูกต้องไปวัดกันที่ศาล
ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปยังร้านอาหารซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามบ้านของผู้ใหญ่บ้านศรีสำโรง พบกับเจ้าของร้าน คือนายสุธิพงษ์ ปัสสารี อายุ 42 ปี เปิดเผยว่า วันที่เกิดเหตุตนเห็นทั้ง 2 คนดื่มเหล้ากันปกติ จนถึงบ่าย 3 เกือบบ่าย 4 โมง เดิมทีผู้เสียหายมาสั่งข้าวกินก่อน สักพักผู้ใหญ่ขับรถมาจากไหนไม่รู้ จึงเรียกผู้ใหญ่มากินด้วย แซวเล่นกัน ก็มานั่งกินด้วยกัน จนประมาณถึง 16.10 น. ผู้ใหญ่จึงขับรถออกไปเอาเหล้ามา 1 แบน และเอาโซดามาดื่มกับเอ็มร้อย ตนก็ทำกับข้าวไป สักพักผู้เสียหายโทรตามเพื่อนมานั่งเป็นเพื่อน มาทานข้าว ไม่ได้ดื่มเหล้า จากนั้นผู้ใหญ่ก็ชวนไปธุระ ตนได้ยินไม่ชัดเจนว่าไปไหน จากนั้นก็ขึ้นรถไปด้วยกัน 3 คน แต่ไม่รู้ว่าไปไหนต่อ ตนไม่ค่อยได้คลุกคลีกับผู้ใหญ่ แต่เป็นลูกค้าประจำที่นี่ นิสัยก็ปกติ ส่วนฝ่ายหญิงก็เป็นลูกค้าประจำเหมือนกัน แต่นิสัยลึกๆ ตนเองไม่รู้ ตนเห็นทั้ง 2 คนคุยกันปกติ ไม่รู้ว่าสนิทกันขนาดไหน ด้าน น.ส.สุนีย์ บุญปัญญา อายุ 56 ปี ภรรยาผู้ใหญ่บ้าน เปิดเผยว่า ไม่ทราบว่าสามีของตนเองหายไปไหน
นางสาววันเพ็ญ หาญเสมอ นายอำเภอสนม ในฐานะผู้บังคับบัญชา เปิดเผยว่า วันนี้ได้มอบหมายให้ปลัดอำเภอรับผิดชอบงานปกครอง ดูแลในเรื่องวินัยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ให้มีการตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงกับผู้ใหญ่บ้านผู้ถูกกล่าวหา แต่ไม่สามารถติดต่อผู้ใหญ่บ้านคนดังกล่าวได้ และได้ให้ชมรมกำนัน-ผู้ใหญ่บ้าน ตามหาตัวเพื่อมาสอบสวนข้อเท็จจริงอีกด้าน แต่ไม่พบตัว ส่วนผู้เสียหายได้เดินทางมาให้ข้อมูลเบื้องต้นแล้วเมื่อวานนี้ ทั้งนี้ หากตามตัวพบและทำการสอบสวน เมื่อพบว่ามีความผิดจริงก็จะเสนอผู้ว่าฯ ตั้งกรรมการสอบวินัยร้ายแรงต่อไป ซึ่งเราจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย.-สำนักข่าวไทย