รวบ “เบียร์ ดอนเมืองจอมปีนฝ้า” ละเมิดเด็กวัย 13

กทม. 30 ก.ค.- สืบนครบาลปิดล้อม 3 ชั่วโมง รวบ “เบียร์ ดอนเมืองจอมปีนฝ้า” ละเมิดเด็กหญิงอายุ 13 ปี


เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2566 พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. สั่งการให้ พล.ต.อ. รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. / ผอ.ศปอส.ตร. , พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. , พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.วรพจน์ รุ่งกระจ่าง รอง ผบก.สส.บช.น. , พ.ต.อ.พัชรดนัย การินทร์ ผกก.(สอบสวน) กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.บช.น. , พ.ต.ต.ธัญพีรสิษฐ์ จุลพิภพ , ร.ต.อ.ศิวัช ยังอุ่น , ร.ต.อ.วรภัทร แสงเทียนประไพร , ร.ต.อ. มนตรี เฉลิมวัฒน์  , ร.ต.อ. จิรศักดิ์ ว่องไว , ร.ต.อ. ชัยวิทย์  หาญญ์สุวรรณนทีวิทย์ , ร.ต.ท. อนันตชัย สัจจพงษ์ , ร.ต.ท. เดชาธร ชมศิริ , ส.ต.ท.จิรวัฒน์ ศรีมั่นมีชัย ร่วมกับเจ้าหน้าที่ชุด PCT5 , สืบนครบาล และเหล่านักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110 ร่วมกันสืบสวนติดตามจับกุมตัว นายพิเชษ หรือ “เบียร์ ดอนเมือง” อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดปทุมธานีที่ 226/2566 ลงวันที่ 24 ก.ค. 66 ข้อหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี โดยเด็กนั้นยินยอมหรือไม่ก็ตามโดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยเด็กนั้นอยู๋ในสภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้” โดยจับกุมตัวได้ที่ หน้าบ้าน ต.บางพูด อ.เมือง จ.ปทุมธานี พบประวัติต้องโทษคดีอาญา 3 คดี

  1. วันที่ 10 ส.ค. 55 ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ในครอบครองฯ” พื้นที่ สภ.สามโคก
  2. วันที่ 6 ก.พ. 56 ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1” พื้นที่ สภ.สามโคก
  3. วันที่ 25 เม.ย. 66 ถูกแจ้งความดำเนินคดีในข้อหา “กระทำอนาจารแก่เด็กอายุยังไม่เกินสิบห้าปี” พื้นที่ สภ.สวนพริกไทย (คดีนี้)

พฤติการณ์กล่าวคือ นายพิเชษ หรือ “เบียร์ ดอนเมือง” ได้คบหากับหญิงสาวคนหนึ่ง โดยอยู่กินด้วยกัน ซึ่งบ้านอยู่ใกล้กันกับบ้านของ “เหยื่อ” เด็กหญิงสาวซึ่งอายุเพียง 13 ปี โดย นายพิเชษมักไปมาหาสู่และพบกันบ่อยครั้งกับเหยื่อหญิงสาวรายนี้โดยผิวเผินนั้นก็ดูเป็นเพียงผู้ใหญ่กับเด็กหญิงสาวทั่วไป หากแต่ในทุกครั้งที่ นายพิเชษได้พบกับเหยื่อหญิงสาวรายนี้ นายพิเชษจะพยายามล่วงละเมิดทั้งทางกายและวาจา กล่าวคือ จะพยายามจับต้องร่างกาย ลูบขา ลูบหน้าอก หรือบางครั้งไปถึงการล้วงอวัยวะเพศของเหยื่อหญิงสาวรายนี้อยู่ตลอดเวลาเมื่อสบโอกาส ซึ่งเหยื่อเด็กหญิงรายนี้ต้องทนทุกข์ทรมานใจเป็นอย่างมาก เพราะความสัมพันธ์ของผู้ล่วงละเมิดนั้นเป็นญาติใกล้ตัว ไม่สามารถจะบอกใครได้ อีกทั้งที่อยู่อาศัยยังใกล้กับบ้านของนายพิเชษ จำใจต้องทนทุกข์ทรมานไม่ต่างจากนรก และด้วยวัยเพียง 13 ปี ทำให้เธอ “พยายามฆ่าตัวตาย” อยู่หลายครั้ง กระทั่งญาติของเธอได้สังเกตถึงความผิดปกติจึงได้จูงมือเหยื่อเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับในที่สุด ซึ่งเมื่อเจ้าตัวทราบได้หลบหนีไป แต่ก็ยังพยายามที่จะไปดักพบกับเหยื่อหญิงสาวรายดังกล่าวอยู่ตลอด ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกหมายจับ นายพิเชษ ในที่สุดซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ต่างพยายามระดมกำลังติดตามตัว นายพิเชษอยู่ตลอดเพราะเข้าใจถึงหัวอกของครอบครัวเหยื่อเป็นอย่างดี หากแต่ว่าการติดตามจับกุมนั้นไม่สามารถจับกุมตัวได้ แม้จะสืบทราบแล้วว่าอยู่ที่ใดแต่เมื่อเดินทางไปตรวจสอบ ตัวนายพิเชษก็หายไปอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย กระทั่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สภ.สวนพริกไทย ได้ประสานมายัง “สืบนครบาล” ให้ช่วยติดตามจับกุมตัวคนร้ายรายนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลพร้อม “นักเรียนอบรมหลักสูตรสืบสวนคดีอาญา รุ่นที่ 110” นักสืบรุ่นใหม่ไฟแรงลงพื้นที่ติดตามจากเบาะแสเดียวที่มีคือ “นานๆจะกลับมาหาแฟนสักครั้ง” เฝ้าแฝงตัวในชุมชน เป็นเวลากว่า 1 สัปดาห์กระทั่งในคืนวันที่ 28 ก.ค. 66 พล.ต.ต.ธีรเดช รับแจ้งเบาะแสสำคัญว่า นายพิเชษได้กลับมาหาแฟนสาวในชุมชนอีกครั้ง ไม่รอช้า นำกำลังเข้าไปปิดล้อมบ้านหลังดังกล่าวทันที แต่เมื่อได้เคาะประตูเรียกปรากฏว่าภายในบ้านไม่ยอมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่แต่อย่างใด ซ้ำยังพยายามปิดไฟภายในบ้านหมดทำเสมือนว่าไม่มีคนอยู่ภายในบ้าน ชุดสืบสวนจึงนำกำลังปิดล้อมเกลี้ยกล่อมนายพิเชษ อยู่เป็นเวลาเกือบ 3 ชั่วโมง กระทั่งตัวแฟนของนายพิเชษ ได้ยอมให้ผู้นำชุมชนเข้าตรวจสอบภายในบ้าน แต่ก็ “ไร้เงา” นายพิเชษอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ยเหมือนเช่นเดิมทุกครั้งที่เจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ แต่แล้วสัญชาติญาณหมาล่าเนื้อของทีมสืบนครบาลไม่ธรรมดา สะกิดใจ “ขอเปิดฝ้า” ซึ่งเมื่อเปิดฝ้าดูก็โป๊ะแตก เจ้าตัว นอนขุดคู้ซ่อนตัวอยู่บนฝ้าเพดาน ซึ่งสุดท้ายเจ้าหน้าที่เกลี้ยมกล่อมจนยินยอมลงมามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ จึงได้ทำการจับกุมตัวตามหมายจับ โดยขณะจับกุมเหล่าชาวบ้านในชุมชนต่างให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ถึงวีรกรรมของนายพิเชษ ว่ามีพฤติกรรมล่วงละเมิดทางเพศกับเด็กหญิงอีกหลายคน


ในชั้นจับกุม นายพิเชษ ผู้ต้องหา ให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา โดยให้การว่า “ตนไม่ได้มีอะไรกับเด็กคนนั้นเลย โดยเมื่อประมาณปลายเดือน เม.ย. 66 ช่วงนั้นโรงเรียนปิดเทอม เด็กคนนั้นก็พักอยู่บ้านเดียวกับตน เพราะเกี่ยวข้องกันเป็นหลานของเมีย วันนั้นประมาณ 10 โมง เด็กคนนั้นก็อยู่บ้านกันสองต่อสอง ตนก็ใช้ให้ช่วยยกพัดลมเข้ามาในห้องเพราะอากาศมันร้อน เด็กคนนั้นก็ช่วยตนยกพัดลมเข้ามาในห้อง ตอนนั้นตนก็ได้แตะเนื้อต้องตัวเด็กคนนั้นไปนิดหน่อย แต่ไม่ได้ทำมิดีมิร้าย ก็มีแม่เลี้ยงของเด็กคนนั้นเข้ามาเห็นแล้วก็โวยวายว่าตนจะทำอะไรเด็กคนนั้น ตนก็บอกว่าไม่ได้ทำอะไร แต่แม่เลี้ยงก็ไม่เชื่อจะพาเด็กคนนั้นไปแจ้งความจับตน ตนก็บอกว่าอยากให้จบเรื่องโดยได้เสนอเงินให้จำนวน 15,000 บาท คุยกันไปคุยกันมาแม่เลี้ยงคนนั้นก็ไม่เอาแล้วก็พาเด็กคนนั้นไปแจ้งความ ตนจึงได้ย้ายกลับไปอยู่บ้านเก่าแถวดอนเมืองเพื่อไม่ให้เรื่องมันบานปลาย แต่ตนก็ยังยืนยันว่าไม่ได้ทำมิดีมิร้ายต่อเด็กคนนั้น” นำตัวนำส่งพนักงานสอบสวน สภ.สวนพริกไทย ดำเนินคดีตามกฎหมาย

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. กล่าวว่า “จากการตรวจสอบคนร้ายรายนี้เป็นบุคคลที่มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับยาเสพติด มีลักษณะของอาการ “ใคร่เด็ก” และยิ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเด็กหญิงรายใด ต้องถือว่าเด็กคนนั้นตกอยู่ในอันตราย ชุดสืบสวนสามารถจับกุมผู้ต้องหาถือว่าน้องสามารถใช้ชีวิตโดยปลอดภัย จึงขอประชาสัมพันธ์ไปยังประชาชนคนที่ที่บุตรหลานของท่านเคยตกเป็นเหยื่อของคนร้ายรายนี้ โปรดแจ้งเบาะแสมาที่เราทางเพจเฟซบุ๊ก สืบนครบาล IDMB เรามีเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชั่วโมง และแม้จะไม่ใช่คดีอุกฉกรรจ์ แต่หากเป็นความเดือดร้อนของประชาชน เราทำทันที ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดํารงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.ธิติ สงสว่าง ผบช.น.” .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ทูน” แจ้งความถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะซื้อของย่านคลองถม

สน.พลับพลาไชย1 11 มิ.ย.- “ทูน หิรัญทรัพย์” อดีตนักแสดงรุ่นใหญ่ แจ้งความ สน.พลับพลาไชย 1 ถูกวัยรุ่นทำร้าย ขณะเดินซื้อของย่านคลองถม อีกฝ่ายอ้างป้องกันตัว นายทูน หิรัญทรัพย์ หรือ นายสพัชญ์นนทน์ อายุ 69 ปี อดีตดารานักแสดงรุ่นใหญ่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สน.พลับพลาไชย 1 กรณีถูกวัยรุ่น 2 คน รุมทำร้ายร่างกาย ได้รับบาดเจ็บ ขณะไปเดินซื้อของในซอยข้างคลองถมพลาซ่า เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 15.00 น. ที่ผ่านมา นายทูน เล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุตนเองและครอบครัวได้ไปเดินหาซื้อไฟในย่านคลองถม ระหว่างนั้นก็มีผู้คนมาทักทายเพราะเห็นว่าตัวเองเป็นดารา แต่มีวัยรุ่นคนหนึ่งพูดจาไม่น่าฟังบอกว่าดาราอะไรเคยไม่รู้จัก จึงตักเตือนในฐานะที่เป็นผู้ใหญ่ ว่า จะพูดจาอะไรก็ต้องให้เกียรติคนอื่นโดยเฉพาะคนที่อาวุโสกว่า จนเกิดมีปากเสียงกัน จากนั้นวัยรุ่นดังกล่าวก็ชกเข้าที่เบ้าตาขวา ซึ่งเป็นตาข้างที่บอดอยู่ จึงไม่เห็นหมัด ก่อนจะมีตำรวจเข้ามาระงับเหตุ แต่วัยรุ่นคู่กรณีก็ยังทำท่าไม่พอใจฮึดฮัดใส่อยู่ ก่อนจะถูกควบคุมตัวไปที่ สน.พลับพลาไชย ซึ่งตัวเองก็ได้เดินทางมาแจ้งความดำเนินคดีด้วยเช่นกัน นายทูน กล่าวว่า ตลอดชีวิตที่เป็นนักแสดงนั้นเคยแต่เจอผู้คนเข้ามาทักทาย ขอถ่ายรูป ด้วยความมีมิตรไมตรี […]

พายุ “หวู่ติบ” ไม่เข้าไทย แต่เสริมมรสุม ฝนเพิ่ม คลื่นแรง เตือนระวังน้ำหลาก

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย.-ไทยมีฝนตกเพิ่ม โดยพายุ​ “หวู่ติบ” จะส่งอิทธิพลให้ร่องมรสุมพาดผ่านและลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น กรมอุตุฯ เตือนประชาชนเฝ้าระวังภัยน้ำหลากและคลื่นลมแรงอย่างใกล้ชิด นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศ กรมอุตุนิยมวิทยา เปิดเผยว่า ช่วงวันที่ 12–13 มิถุนายน 2568 ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งอันดามัน ได้แก่ ระนอง พังงา จันทบุรี และตราด ซึ่งได้รับอิทธิพลจากร่องมรสุมที่พาดผ่านตอนบนของประเทศ และลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังแรง กรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศแจ้ง​เตือน​ว่า พายุโซนร้อน “หวู่ติบ” บริเวณทะเลอันดามันตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำของจีนไปทางตะวันออกเฉียงใต้ประมาณ 160 กิโลเมตร มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 65 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เคลื่อนตัวทางตะวันตกเฉียงเหนือ คาดว่า​ จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 13-14 มิ.ย.68 และจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ แม้ศูนย์กลางพายุจะไม่เข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่พายุนี้เป็นอีกปัจจัยที่เสริมให้ลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้มีกำลังแรงขึ้น ส่งผลให้หลายพื้นที่มีฝนตกหนัก คลื่นลมในทะเลอันดามันตอนบนสูง 2–3 เมตร และในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองอาจสูงมากกว่า 3 […]

ผลแล็บพบข้าวมันไก่ติดเชื้อ ทำครู-นร.ท้องเสีย 23 คน

ปราจีนบุรี 12 มิ.ย. – แม่ค้ามือเป็นแผล! ครู-นักเรียน กินข้าวมันไก่ ท้องเสียยกชั้น หามส่ง รพ. แพทย์ชี้ชัดผลแล็บ พบเชื้อสตาฟิโลคอคคัส ออเรียส ต้นเหตุทำอาหารเป็นพิษ จากกรณีที่โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง ในอำเภอเมือง จ.ปราจีนบุรี ต้องระดมทั้งรถตู้โรงเรียน และรถฉุกเฉิน เร่งนำตัวนักเรียนและคุณครู ส่งโรงพยาบาล จำนวน 23 คน หลังทุกคนกินข้าวมันไก่ในช่วงพักกลางวัน พอตกบ่ายก็มีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน บางรายเป็นไข้หนาวสั่น คาดสาเหตุมาจากอาหารเป็นพิษ ผู้ป่วยถูกนำตัวส่งรักษาอาการที่ห้องผู้ป่วยฉุกเฉิน รพ.เจ้าพระยาอภัยภูเบศร รวม 16 คน (นักเรียน 15 คน ครู 1 คน) เบื้องต้น แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้แล้วบางส่วนเหลือคุณครูที่ต้องดูอาการเนื่องจากมีอาการช็อก ส่วนนักเรียน ยังคงต้องดูอาการอีก 9 คน ซึ่งคาดว่าแพทย์น่าจะอนุญาตให้กลับบ้านได้ภายในวันนี้ ส่วนที่ รพ.ค่ายจักรพงษ์ มีจำนวน 7 คน (เป็นนักเรียนทั้งหมด) เบื้องต้น […]

หลุดภาพ​ “ชาดา-สันติ-​นายกด๊อยซ์” สะพัดขน 6 สส. ​ซบ ​“ภท.”

กทม. 11​ มิ.ย. – “ชาดา-สันติ-นายกด๊อยซ์” ร่วมวงกินข้าว หลังสะพัดขน “6 สส.มะขามหวาน” เด็กลุงป้อม ย้ายซบ “ภูมิใจไทย” ผู้สื่อข่าวรายงานว่า​ ภายหลัง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีคำสั่งเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.68 แต่งตั้ง นางจิตรา หมีทอง ซึ่งเป็นทีมงานนายสันติ พร้อมพัฒน์ แกนนำ 6 สส. เพชรบูรณ์ พรรคพลังประชารัฐ เป็นคณะที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) และ รมว.มหาดไทย ล่าสุดช่วงเย็น วันที่ 11 มิ.ย. ได้ปรากฏภาพนายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี แกนนำพรรคภูมิใจไทย ได้รับประทานอาหารเย็น ร่วมกับ นายสันติ และ นายอัครเดช ทองใจสด นายก อบจ.เพชรบูรณ์ ที่โรงแรมแห่งหนึ่ง […]

ข่าวแนะนำ

สยบรอยร้าว “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพคู่ “เอกนัฏ” ยัน รทสช.ไปต่อ

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – “พีระพันธุ์” โพสต์ภาพโชว์ปึก “เอกนัฏ” สยบรอยร้าว ขอบคุณร่วมอดทนต่อสู้ทุนใหญ่ ยัน รทสช.ไปต่อแน่ ป้อง “ทีมสุดซอย” ถูกใส่ร้าย เมื่อเวลา 21.00 น. วันนี้ (12 มิ.ย.68) นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์ภาพถ่ายคู่กับนายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในฐานะเลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ พร้อมข้อความระบุว่า “ผูกพันและเชื่อใจ การที่มีคนกล่าวหาขิงว่าจะไปขอให้มาโค่นทำลายผมจากหัวหน้าพรรค ผมได้แต่ขำ ขิงกับผม เราผ่านร้อนผ่านหนาวด้วยกันมามาก คำพูดแบบนี้จึงเป็นเรื่องขำๆ ของคนที่คิดคำแก้ตัวไม่ออก ผมกับท่านเลขาฯ ขิง เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เรารู้จักกันมานาน ตั้งแต่ขิงยังไม่เข้ามาวงการเมือง จนมาทำงานการเมืองร่วมกัน ขิงเป็นคนหนุ่มที่มุ่งมั่นทำงานการเมืองเพื่อประชาชน ไม่ใช่มาเล่นการเมือง เป็นคนซื่อสัตย์ ตรงไปตรงมา เมื่อผมจะทำพรรคการเมือง คนแรกที่ผมคิดถึงจึงเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก ‘ขิง’ ผมหารือกับขิงว่าอยากชวนเขามาทำพรรคการเมืองตามแนวทางที่เราอยากทำอยากให้เป็น คือเป็นพรรคการเมืองที่ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองและประชาชน เข้ามาแก้ไขปัญหาทุกอย่างเพื่อประชาชน ไม่ใช่เพื่อจะมีสถานะหรือมีตำแหน่งทางการเมือง […]

จับตานายกฯ ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม.

กรุงเทพฯ 12 มิ.ย. – จับตา “นายกฯ แพทองธาร” ถกหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค ปรับ ครม. หลังเลื่อนประชุม ครม.สัญจร จ.พิษณุโลก 23-24 มิ.ย.นี้ คาดรอ ครม.ใหม่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันพรุ่งนี้ (13 มิ.ย.) ที่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้แจ้งลาราชการในเวลา 11.30-13.00 น. หลังจบภารกิจเป็นประธานในพิธีปิดการประชุมเอกอัครราชทูตและกงสุลใหญ่ทั่วโลก ประจำปี 2568 และมีรายงานว่านายกฯ มีภารกิจร่วมประชุมผู้ปกครอง จากนั้นจะกลับมาปฏิบัติงานที่ทำเนียบรัฐบาลในช่วงบ่าย ทั้งนี้ มีรายงานว่า นายกฯ จะเชิญหัวหน้าพรรคร่วมบางพรรค หารือถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ท่ามกลางกระแสข่าวการต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีระหว่างพรรคเพื่อไทยและภูมิใจไทย และปัญหาภายในของพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้เกิดความชัดเจน นอกจากนั้นยังมีรายงานว่า สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (สลค.) ได้แจ้งเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ (ครม.สัญจร ) ระหว่างวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ที่ จ.พิษณุโลก ออกไปก่อน […]

เสียงจากช่องบก รอวันสันติภาพ

อุบลราชธานี 12 มิ.ย. – ผ่านมาแล้ว 15 วัน นับตั้งแต่เหตุการณ์ปะทะที่ช่องบก อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี พื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ยังคงตึงเครียด แต่ชาวบ้านในพื้นที่ต่างตั้งความหวังว่าการประชุม JBC วันที่ 14 มิ.ย.นี้ จะหาทางออกได้โดยสันติ เพื่อให้ประชาชนทั้งสองประเทศได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ.-สำนักข่าวไทย

แอร์อินเดียพร้อมผู้โดยสาร 242 คน ตกที่สนามบินอาห์เมดาบัด

นิวเดลี 12 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์ อินเดีย ที่กำลังมุ่งหน้าไปยังกรุงลอนดอน ของอังกฤษ พร้อมด้วยผู้โดยสาร 242 คน เกิดอุบัติเหตุตก หลังจากที่เพิ่งออกเดินทางจากสนามบินเมืองอาห์เมดาบัด ทางตะวันตกของอินเดีย เพียงไม่กี่นาที แอร์อินเดีย กล่าวว่า เครื่องบินลำดังกล่าวมีกำหนดเดินทางไปยังสนามบินแก็ตวิก ในอังกฤษ ขณะที่ตำรวจกล่าวว่า เครื่องบินตกในบริเวณพื้นที่พลเรือนใกล้กับสนามบิน ไฟลท์เรดาร์ 24 ซึ่งติดตามความเคลื่อนไหวทางอากาศ กล่าวว่า เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ ซึ่งเป็นเครื่องบินโดยสารที่ทันสมัยมาก ๆ ที่ให้บริการอยู่ในขณะนี้ โทรทัศน์ของอินเดีย รายงานว่า อุบัติเหตุครั้งนี้เกิดขึ้นในขณะที่เครื่องบินกำลังทะยานขึ้นจากสนามบิน ภาพจากโทรทัศน์ช่องหนึ่ง แสดงให้เห็นภาพเครื่องบินออกจากสนามบินและบินอยู่เหนือพื้นที่ย่านพักอาศัยของประชาชน จากนั้นเครื่องบินก็หายไปจากจอ ก่อนที่จะเห็นควันไฟขนาดใหญ่ลอยจากบ้านเรือนประชาชนขึ้นไปบนท้องฟ้า นอกจากนั้น ยังมีภาพประชาชนถูกเคลื่อนย้ายด้วยเปลไปยังรถพยาบาลที่นำผู้ได้รับบาดเจ็บไปโรงพยาบาล ช้อมูลการควบคุมการจราจรทางอากาศที่สนามบินอาห์เมดาบัด ระบุว่า เครื่องบินออกเดินทางเมื่อเวลา 13.39 น. ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกับ 15.09 น. ตามเวลาในประเทศไทย จากทางวิ่งหมายเลข 23 เครื่องบินส่งสัญญาณฉุกเฉินขอความช่วยเหลือ แต่หลังจากนั้นก็ติดต่อนักบินไม่ได้อีกเลย.-813.-สำนักข่าวไทย