รัฐสภา 24 ส.ค.-“สัมพันธ์” ระบุรายละเอียดข่าวซื้อเรือดำน้ำที่ออกมาสู่สังคมไม่ชัดเจน ทำให้ถูกนำไปโยงการเมือง ยังตอบไม่ได้จำเป็นต้องซื้อหรือไม่ ขอรอฟังเหตุผลกองทัพเรือก่อน
นายสัมพันธ์ เลิศนุวัฒน์ กรรมาธิการและที่ปรึกษาคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 กล่าวถึงกรณีคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์ ไอซีที รัฐวิสาหกิจและทุนหมุนเวียน มีมติเห็นชอบผ่านงบประมาณจัดซื้อเรือดำน้ำของกองทัพเรือ 2 ลำ วงเงิน 22,500 ล้านบาท ว่า ข่าวที่ออกมาเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวอาจไม่ละเอียดและกระจ่าง จนทำให้ประชาชนบางส่วนไม่เข้าใจการใช้งบประมาณของปีนี้
นายสัมพันธ์ กล่าวว่า เท่าที่ฟังการชี้แจงความจริง เรือดำน้ำซื้อไปแล้ว 1 ลำ ส่วน 2 ลำนี้เป็นลำที่ 2 กับ 3 ซึ่งจะซื้อคู่กัน โดยทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องชี้แจงว่าหากซื้อคู่จะได้ราคาถูกกว่าและเรือดำน้ำคู่นี้ตกลงว่าต้องทำสัญญาและจ่ายเงินงวดแรกตั้งแต่งบประมาณปี 63 แต่กองทัพเรือเห็นว่าช่วงสถานการณ์โควิด-19 มีความจำเป็นต้องใช้เงินไปช่วยเหลือ จึงขอเลื่อนการทำสัญญาตามเอ็มโอยูที่ทำกับทางจีนมา 1 ปี แต่ปีนี้ทางจีนไม่ให้เลื่อนแล้ว จึงมีความจำเป็นต้องทำตามสัญญาตามเอ็มโอยูที่ทำไว้ ซึ่งในส่วนของจำนวน 22,500 ล้านบาท ปีนี้ไม่ได้จ่าย 22,500 ล้านบาท จ่ายเพียง 3,000 ล้านบาทเศษเท่านั้น ตกลำละประมาณ 1,500 ล้านบาท เนื่องจากเรือที่ซื้อเป็นการจ่ายแบบงวด ประมาณ 6-7 งวด เฉลี่ยงวดละ 3,000 ล้านบาท ไม่ได้เป็นการใช้เงิน 22,500 ล้านบาทในปีนี้ปีเดียว
“หากถามว่าจำเป็นต้องซื้อหรือไม่ คงต้องรอฟังการชี้แจงเหตุผลจากกองทัพเรือเสียก่อน หากเห็นว่ามีความจำเป็นก็ควรอนุมัติให้ตามที่ขอมา ตนพูดคนเดียวว่าควรซื้อหรือไม่ควรซื้อไม่ได้ จำเป็นต้องรอฟังการชี้แจงเหตุผลจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและที่ประชุมกรรมาธิการงบฯ ก่อนว่ามีความจำเป็นหรือไม่ เพียงใด ต้องใช้เงินเท่าไร และขั้นตอนการใช้เงินเป็นอย่างไร ในฐานะกรรมาธิการฯงบต้องฟังการขี้แจงของฝ่ายที่เสนอของบประมาณมาก่อน แต่เหตุการณ์ทางการเมืองในปัจจุบันหลายฝ่ายยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดรวมกัน ทำให้เกิดกระแสทั้งเห็นควรซื้อและไม่ควรให้ซื้อ และเรื่องนี้ถูกนำมาโยงเหตุการณ์การเมืองในปัจจุบัน หากเอาข้อเท็จจริงมาพูดคุยกัน จะทำให้ประชาชนเข้าใจมากขึ้น เหตุการณ์ต่าง ๆ จะไปในทางที่ดีขึ้น” นายสัมพันธ์ กล่าว.-สำนักข่าวไทย