รัฐสภา 19 ส.ค.-เลขาธิการพรรคก้าวไกล เดินหน้ายื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติม รธน. มาตรา 269-272 ปิดสวิตซ์ ส.ว.สืบทอดอำนาจ คสช. ยืนยันไม่แก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 แนะตั้ง ส.ส.ร.ยกร่าง รธน. ชี้หากขวางการชุมนุมของ นศ.จะทำให้การเมืองเดินไปสู่ทางตัน
นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เตรียมยื่นยุบพรรคก้าวไกล โดยระบุว่าพรรคก้าวไกลจะยื่นแก้ไขรัฐธรรมนูญ หมวดที่ 1 ซึ่งเป็นหมวดทั่วไป และหมวดที่ 2 ที่ว่าด้วยพระมหากษัตริย์ โดยยืนยันว่า พรรคก้าวไกลไม่ได้เสนอการแก้ไขหมวด 1 และหมวด 2 เพียงแต่สงวนความคิดเห็นไว้ ส่วนใครจะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็ต้องรับฟังความเห็น ส่วนประเด็นนี้จะทำให้คนอีกกลุ่มเกิดความไม่สบายใจหรือไม่ ย้ำว่ารัฐธรรมนูญมาตรา 255 ได้กำหนดขอบเขตการแก้ไขไว้อยู่แล้ว น่าจะทำให้ทุกฝ่ายสบายใจว่าการแก้ไขจะอยู่ในกรอบนี้
“เมื่อมีการชุมนุมของนักศึกษา ประชาชนข้างนอกก็กังวล และเรียกร้องให้สังคมมีวุฒิภาวะในการรับฟังพวกเขา จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ก็แล้วแต่ แต่ควรจะฟังและเข้าใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น เรากังวลว่าถ้าไปล็อกไว้แบบนี้ จะยิ่งทำให้สังคมลดวุฒิภาวะในการรับฟังกันมากขึ้น และจะทำให้เกิดการปะทะกันอย่างรุนแรง” นายชัยธวัช กล่าว
นายชัยธวัช กล่าวถึงเหตุผลที่พรรคไม่ได้ร่วมลงชื่อเสนอญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพราะเห็นว่าไม่มีความจำเป็น และฝ่ายค้านได้ยื่นแล้ว แต่ก็ได้สงวนสาระสำคัญบางส่วนและจะเข้าร่วมอภิปรายในสภาฯ ส่วนแนวทางของพรรคนั้น จะยื่นร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญให้ยกเลิก มาตรา 269-272 เพื่อปิดสวิตซ์ ส.ว.เพราะเป็นกล่องดวงใจในการสืบทอดอำนาจของ คสช. ที่ให้ ส.ว. 250 คนที่แต่งตั้ง มีอำนาจโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ แต่ทั้งนี้ยอมรับว่าพรรคอาจมีเพียง 54 เสียง ซึ่งไม่ถึง 1 ใน 5 ของ ส.ส คือ 98 เสียง ดังนั้นจึงต้องขอเสียงสนับสนุนจากพรรคร่วมฝ่ายค้าน ซึ่งจะมีการหารือกันในวันพรุ่งนี้ (20 ส.ค.)
หากสุดท้ายไม่มีเสียงสนับสนุนเพียงพอ ก็จะเดินหน้าร่วมกับประชาชน 50,000 รายชื่อยื่นแก้ไขเข้าสู่สภาฯ
นายชัยธวัช กล่าวด้วยว่า มีความเป็นห่วงว่าการอ้างถึงการก้าวล่วงสถาบันในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ไม่ส่งผลดีต่อสถานการณ์การเมืองขณะนี้ และที่ผ่านมาเคยมีบทเรียนมาแล้วตั้งแต่ปี 2549 และวันนี้ยังมีความพยายามหยิบยกประเด็นนี้มาขัดขวางการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ผ่านการตั้ง ส.ส.ร. และเป็นการกระตุ้นให้เกิดความเกลียดชัง และหากปราบปรามผู้ชุมนุมขณะนี้ จะยิ่งทำให้การเมืองเดินไปสู่ทางตัน ดังนั้นทางออกของการเมือง คือ มี ส.ส.ร.ที่จะเป็นพื้นที่ปลอดภัยและมีเสรีภาพในการแสดงความเห็น เพื่อหาจุดสมดุลร่วมกัน สร้างระบบการเมืองให้เป็นที่ยอมรับ.-สำนักข่าวไทย