fbpx

BIG STORY : เปิดประวัติ “เนตร นาคสุข” รอง อสส. สั่งไม่ฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา”

กรุงเทพฯ 11 ส.ค.- เปิดประวัตินายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องคดี “บอส อยู่วิทยา” โดยล่าสุดนายเนตร ยื่นหนังสือลาออกจากราชการแล้ว ขณะที่สำนักงานอัยการสูงสุดตั้งคณะทำงานตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” ของนายเนตร


หลังคณะทำงานพิจารณาสั่งคดี “บอส อยู่วิทยา” ของสำนักงานอัยการสูงสุด ซึ่งมีนายอิทธิพร แก้วทิพย์ เป็นหัวหน้าคณะทำงาน มีคำสั่งให้พนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดี “บอส อยู่วิทยา” ในข้อหาเสพโคเคน และสอบสวนพยานเพิ่มเติม โดยเฉพาะประเด็นเรื่องการใช้ความเร็วของนายบอส

ล่าสุด วันนี้ นายเนตร นาคสุข รองอัยการสูงสุด ได้ยื่นหนังสือลาออกจากราชการต่ออัยการสูงสุด โดยโดยหนังสือที่นายเนตร ยื่นลาออก ให้เหตุผลสรุปว่า ยังยืนยันถึงการสั่งคดีดังกล่าวเป็นการใช้ดุลพินิจโดยถูกต้องถูกระเบียบปฏิบัติและใช้เหตุผลประกอบอันสมควร แต่เนื่องจากสถาบันอัยการโดนกดดันจากสังคม จึงเห็นว่าเพื่อรักษาภาพลักษณ์ขององค์กร ขอแสดงความรับผิดชอบโดยการลาออก อย่างไรก็ตาม ยังไม่ปรากฏว่าขณะนี้อัยการสูงสุดเซ็นคำสั่งอนุญาตหนังสือลาออกของนายเนตรดังกล่าว


สำหรับประวัติของนายเนตร นาคสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูง ขณะรักษาการรองอัยการสูงสุด (รอง อสส.) มีคำสั่งไม่ฟ้องทุกข้อหานายวรยุทธ อยู่วิทยา ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย จบการศึกษานิติศาสตร์บัณฑิต เกียรตินิยมอันดับ 2 จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เคยดำรงตำแหน่งสำคัญ อาทิ อัยการจังหวัดน่าน-พิจิตร, รองอธิบดีอัยการภาค 6, อธิบดีอัยการสำนักงานคดีปกครองเชียงใหม่, อธิบดีอัยการสำนักงานคดีศาลสูง เคยพิจารณาคดีโอ๊ค พานทองแท้ ในคดีฟอกเงิน และเป็นผู้ลงนามคำสั่งชี้ขาดไม่อุทธรณ์คดี

ทั้งนี้ นายเนตร จะครบกำหนดวาระการบริหาร เนื่องจากอายุครบ 65 ปีในวันที่ 30 กันยายน 2563 ซึ่งเมื่อครบวาระตำเเหน่งบริหารเเล้ว ยังสามารถขอต่อเป็นอัยการอาวุโสได้จนครบอายุ 70 ปี ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของคณะกรรมการอัยการ ก.อ.

อสส.ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคำสั่งไม่ฟ้องของ “เนตร นาคสุข”


ขณะเดียวกัน อัยการสูงสุดมีคำสั่งแต่งตั้งคณะทำงานตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้อง “บอส อยู่วิทยา” โดยให้คณะทำงานมีอำนาจหน้าที่ตรวจสอบความเห็นและคำสั่งไม่ฟ้องของนายเนตร นาคสุข ว่าการรับฟังพยานหลักฐานเป็นไปตามหลักกฎหมาย ชอบด้วยเหตุผลและใช้ความระมัดระวัง ละเอียดรอบคอบหรือไม่เพียงใด แล้วเสนอรายงานผลการตรวจสอบ พร้อมความเห็นต่ออัยการสูงสุดเพื่อประกอบการพิจารณา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบศพโบลท์หญิงวัย 47 ในป่าหญ้าริมทาง คาดถูกฆ่าชิงรถ

โบลท์หญิงวัย 47 ปี หายตัวจากบ้านพักย่านดินแดง 9 วัน ล่าสุดพบเป็นศพในป่าหญ้าริมถนนสายนครชัยศรี-ห้วยพลู อ.นครชัยศรี จ.นครปฐม ส่วนรถยนต์โผล่ที่ จ.ภูเก็ต คาดถูกคนร้ายฆ่าชิงรถ

pagers on display

ทำไมยังมีการใช้ “เพจเจอร์” ในยุคสมาร์ทโฟน

ลอนดอน 19 ก.ย.- เพจเจอร์ หรือวิทยุติดตามตัวเป็นอุปกรณ์การสื่อสารยอดนิยมในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1990 ที่ต้องหลีกทางให้แก่โทรศัพท์เคลื่อนที่ เนื่องจากเป็นการสื่อสารทางเดียว แต่ยังคงมีการใช้งานในบางกลุ่ม รวมถึงกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ที่เพจเจอร์ระเบิดพร้อมกันหลายพันเครื่องทั่วเลบานอนเมื่อวันที่ 17 กันยายน แหล่งข่าวเผยว่า ฮิซบอลเลาะห์ใช้เพจเจอร์ เนื่องจากเป็นช่องทางสื่อสารเทคโนโลยีต่ำ ส่งข้อความผ่านสัญญาณวิทยุ จึงตรวจจับสัญญาณและตำแหน่งได้ยากกว่าโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่ส่งสัญญาณไปยังเสาส่งที่อยู่ใกล้ที่สุด อีกทั้งไม่มีเทคโนโลยีระบุพิกัดบนพื้นโลกอย่างจีพีเอสด้วย อดีตเจ้าหน้าที่สำนักงานสอบสวนกลางหรือเอฟบีไอ (FBI) ของสหรัฐเผยว่า ในอดีตแก๊งอาชญากรรมโดยเฉพาะแก๊งค้ายาเสพติดในสหรัฐเคยนิยมใช้เพจเจอร์ แต่ขณะนี้หันมาใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่แบบเติมเงินราคาถูกที่สามารถเปลี่ยนเครื่องและหมายเลขได้อย่างง่ายดาย ทำให้เจ้าหน้าที่ติดตามแกะรอยได้ยาก อย่างไรก็ดี  ศัลยแพทย์โรงพยาบาลใหญ่แห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักรเผยว่า เพจเจอร์เป็นอุปกรณ์ที่แพทย์และพยาบาลสังกัดสำนักงานบริการสุขภาพแห่งชาติหรือเอ็นเอชเอส (NHS) ต้องพกติดตัวอยู่เสมอ เพื่อรับแจ้งข่าวในการปฏิบัติหน้าที่ เป็นช่องทางที่ถูกที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดในการแจ้งข่าวทางเดียวกับคนจำนวนมาก เพจเจอร์หลายรุ่นสามารถส่งเสียงไซเรนและมีข้อความเสียงแจ้งให้ทีมแพทย์ไปรวมตัวที่ห้องฉุกเฉินได้ทันที ข้อมูลล่าสุดในปี 2562 ระบุว่า เอ็นเอชเอสใช้เพจเจอร์ประมาณ 130,000 เครื่อง คิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 1 ใน 10 ของที่ใช้ทั่วโลก คอกนิทีฟมาร์เก็ตรีเสิร์ช  (Cognitive Market Research) ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยคาดการณ์ว่า ตลาดเพจเจอร์จะเติบโตร้อยละ 5.9 ต่อปี จากปี 2566 ถึงปี 2573 […]

ข่าวแนะนำ

คนร้ายฆ่าสาวโบลท์ เครียด ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ

เครียด! “ไอ้แม็ก” มือฆ่าชิงทรัพย์สาวโบลท์ ใช้หัวโขกลูกกรง สน.มีนบุรี จนตำรวจต้องเข้าระงับเหตุ ซัดมีอีก 2 คนยังไม่โดนจับ ล่าสุดคุมตัวไปฝากขังแล้ว

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมาก คลื่นลมแรง

กรมอุตุฯ เผยทั่วไทยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน-น้ำป่าไหลหลาก ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนคลื่นลมแรง เรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

ชีวิตติดลบ! ชาวแม่สายจมน้ำจมโคลน 10 วันแทบหมดตัว

หลายชุมชนชายแดนแม่สาย เผชิญน้ำท่วมและจมโคลนมา 10 วันแล้ว อยู่ในสภาพแทบหมดตัว ต้องเริ่มนับหนึ่งใหม่กับชีวิตที่ต้องติดลบจากน้ำท่วมครั้งนี้