รัฐสภา 30 ก.ค.- “สิระ” เตือน “บอส อยู่วิทยา” ไม่มาแจง กมธ.กฎหมายเกิน 2 ครั้ง จะออกคำสั่งเรียก-ดำเนินคดี ลั่น กมธ.จะลุยพิสูจน์ให้ได้ เตรียมไลฟ์สดการประชุม 5 ส.ค. นี้ เชิญผู้เกี่ยวข้อง ทั้งอัยการ-ตำรวจ-“บอส”-ทนาย มาแจง
นายสิระ เจนจาคะ ในฐานะประธานกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร แถลงว่า ที่ประชุมกรรมาธิการฯ วานนี้ (29 ก.ค.) ได้เชิญตำรวจและอัยการมาชี้แจงคดีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส กระทิงแดง มาชี้แจง แต่ผู้ชี้แจงขอกลับไปเตรียมข้อมูล เพื่อตอบคำถามในวันพุธที่ 5 สิงหาคม ในการประชุมร่วมระหว่างคณะกรรมาธิการการกฎหมายฯ และ คณะกรรมาธิการตำรวจ
“วันที่ 5 สิงหาคม นายเนตร นาคสุข อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลสูง และ พล.ต.ท.เพิ่มพูน ชิดชอบ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ก็ต้องมา ที่สำคัญ กรรมาธิการฯ ได้เชิญ นายวรยุทธ และทนายของนายวรยุทธด้วย หากนายวรยุทธ์และทนาย ไม่ยอมมา 2 ครั้ง ก็จะออกคำสั่งเรียกตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก แต่ถ้าไม่มาอีก ก็จะดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คำสั่งเรียก” นายสิระ กล่าว และย้ำว่า ต้องการให้นายวรยุทธ เข้ามาชี้แจงกับกรรมาธิการฯ เพราะเป็นผู้ที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ประชาชนจะได้รู้ว่า ว่าเกิดอะไรขึ้น
นายสิระ กล่าวว่า ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่า กรรมาธิการจะตรวจสอบให้ความกระจ่าง ไม่มีการช่วยเหลือกัน หากไม่กระจ่าง ก็จะตรวจสอบอีกรอบหนึ่ง ดังนั้น ในวันที่ 5 สิงหาคม จะได้คำตอบว่า การลงนามสั่งไม่ฟ้อง ใช้ดุลยพินิจอะไร รวมทั้ง เรื่องยาเสพติดที่ยังติดใจกันอยู่ และการวิ่งเต้นแทรกแซงมีหรือไม่ โดยในการประชุมวันดังกล่าว กรรมาธิการฯ จะมีการไลฟ์สด เปิดเผยให้ประชาชนได้รับทราบ เพื่อให้คลายข้อสงสัย
“ถ้าจะรื้อคดีใหม่ ต้องดูว่าพยาน 2 ปากที่เพิ่งปรากฎนั้น ให้การเท็จหรือไม่ หากให้การเท็จ ก็ถือว่าเป็นหลักฐานใหม่ ที่ยื่นฟ้องศาลใหม่ได้ และหากการคำนวณความเร็วของรถจาก 177 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เหลือ 80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หากเป็นเท็จ ก็คือว่าเป็นพยานใหม่เช่นกัน เพราะถือเป็นข้อมูลเท็จ ผมมองว่า นักวิชาการวิเคราะห์ใช้สูตรคำนวณความเร็วแบบมีอคติ ผมเจอมาหลายครั้งแล้ว นักวิชาการส่วนใหญ่มีอคติ จึงต้องพิสูจน์กันให้ได้ กรรมาธิการฯ จะลุยเอง” นายสิระ กล่าว
นายสิระ ยังเปิดเผยว่า กรณีที่ตำรวจยืนยันต่อกรรมาธิการฯ เมื่อวานนี้ ว่า ประเด็นพบสารแปลกปลอมที่เกี่ยวข้องกับยาเสพติดในร่างกายของนายวรยุทธ มีอยู่ในสำนวนการสอบสวน แต่ไม่ได้ตอบชัดเจนว่าเ หตุใดจึงไม่ตั้งข้อหานี้ตั้งแต่ต้น แต่เบื้องต้นจากการพูดคุย ทราบว่าตำรวจกำลังจะตั้งข้อหานี้ขึ้นมาใหม่ ในเฉพาะส่วนของยาเสพติด เพราะมีหลักฐานจากการตรวจสอบของโรงพยาบาลรามาธิบดีชัดเจน .- สำนักข่าวไทย