โรงพักในโรงพยาบาลอุดรธานี

อุดรธานี 22 ก.ค. – โรงพยาบาลอุดรธานี นอกจากตั้งสถานีตำรวจในโรงพยาบาล ป้องกันเหตุรุนแรงในห้องฉุกเฉิน ยังวางระบบป้องกันบุคคลภายนอก หรือแม้แต่ผู้อำนวยการโรงพยาบาลก็ไม่สามารถเข้าห้องฉุกเฉินได้ หากไม่ได้รับอนุญาต ทั้งยังวางแนวทางการรับมือเหตุอย่างเป็นมาตรฐาน และฝึกซ้อมรับมือทุกปี 


กล้องวงจรปิดจับภาพวัยรุ่นยืนรอหน้าห้องฉุกเฉิน โรงพยาบาลอุดรธานี หลังกลางดึกที่ผ่านมา เกิดเหตุทะเลาะวิวาทในสถานบันเทิง วัยรุ่นบาดเจ็บ 4 ราย ถูกนำส่งโรงพยาบาลอุดรธานี เพื่อนและญาติผู้บาดเจ็บประมาณ 10 คน จะเข้าไปดูอาการผู้บาดเจ็บ แต่เข้าห้องฉุกเฉินไม่ได้ มี รปภ. และตำรวจเข้ามาพูดคุย ก่อนกลุ่มวัยรุ่นจะเดินทางกลับ เหลือเพียงญาติ ไม่มีเหตุรุนแรงเกิดขึ้น นี่คือส่วนหนึ่งของมาตรการป้องกันเหตุรุนแรงในห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลอุดรธานี  


เมื่อมีผู้ป่วยฉุกเฉินเดินทางมาถึงโรงพยาบาล จะเข้าสู่ห้องคัดกรอง เมื่อเจ้าหน้าที่ทราบว่าสาเหตุการบาดเจ็บเกิดจากการทะเลาะวิวาท จะเตรียมรับมือทันที เมื่อผู้ป่วยผ่านการคัดกรอง ก็จะเข้าสู่ห้องฉุกเฉิน 

ห้องฉุกเฉินแบ่งเป็น 2 ห้อง ห้องแรก ฉุกเฉินปานกลางสีเหลือง ห้องที่ 2 ห้องฉุกเฉินมากสีชมพู และขั้นวิกฤติสีแดง การจะเข้าแต่ละห้องต้องมีเจ้าหน้าที่เป็นผู้เปิดประตูให้


ในกรณีมีเหตุรุนแรงเกิดขึ้นหน้าห้องฉุกเฉิน จะมีการแจ้งเตือนด้วยเสียงกริ่ง เมื่อเสียงกริ่งดังขึ้น เจ้าหน้าที่จะย้ายผู้ป่วยในห้องฉุกเฉิน ย้ายอุปกรณ์การแพทย์ที่มีราคาสูง เช่น เครื่องอัลตราซาวด์ มูลค่ากว่า 4 ล้านบาท เก็บในที่ปลอดภัย เก็บของมีคม อพยพเจ้าหน้าที่ ภายใน 5-15 นาที

นอกจากระบบการป้องกัน โรงพยาบาลอุดรธานี ยังติดตั้งกล้องวงจรปิดรอบห้องฉุกเฉิน และภายในห้องฉุกเฉิน รวม 13 จุด ร่วมมือกับ สภ.เมืองอุดรธานี ตั้งสถานีตำรวจชุมชนโรงพยาบาลอุดรธานี ซึ่งอยู่ติดกับห้องฉุกเฉิน เตรียมพร้อมอุปกรณ์ระงับเหตุ และช่วงกลางคืนเจ้าหน้าที่ตำรวจจะเข้ามาตรวจความเรียบร้อยทุก 2-4 ชั่วโมง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศเย็น-อีสานอุณหภูมิลดลงอีกเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะลดลงอีกเล็กน้อยในภาคอีสาน ส่วนภาคเหนือตอนบน ภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : ส่องทิศทางแห่งอำนาจ “รัฐบาลทรัมป์ 2.0”

รายงานพิเศษวันนี้ไปติดตามสิ่งที่ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัญญาหาเสียงเอาไว้ ที่จะทำให้พอเห็นทิศทางการครองอำนาจของเขา โดยมีหลายอย่างที่จะสร้างความสั่นสะเทือนอย่างมาก