สมาคมธนาคารไทยแนะวิธีป้องกันมิจฉาชีพหลอกติดตั้งแอปฯ ดูดเงิน

กรุงเทพฯ 11 ส.ค.-สมาคมธนาคารไทย เผยกรณีที่มีผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกติดตั้งแอปพลิเคชันและดูดเงินจากบัญชีไปกว่า 1 ล้านบาท โดยธนาคารสมาชิกที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการระงับธุรกรรมชั่วคราวทันทีเมื่อได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย แนะแจ้งให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ณ สถานีตำรวจที่สะดวกหรือใกล้ที่สุด 


สมาคมธนาคารไทย ขอชี้แจงว่า จากกรณีที่มีผู้เสียหายถูกมิจฉาชีพหลอกติดตั้งแอปพลิเคชันและดูดเงินจากบัญชีไปกว่า 1 ล้านบาทนั้น ทางธนาคารสมาชิกที่เกี่ยวข้องได้รับทราบเหตุดังกล่าวและดำเนินการระงับธุรกรรมชั่วคราวทันทีเมื่อได้รับแจ้งจากผู้เสียหาย และแจ้งให้ผู้เสียหายไปร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน ณ สถานีตำรวจที่สะดวกหรือใกล้ที่สุด เพื่อขยายระยะเวลาการระงับธุรกรรมชั่วคราวไปอีก 7 วัน และดำเนินการสืบสวนสอบสวนตามที่กฎหมายกำหนด ขณะนี้ธนาคารที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างประสานกับผู้เสียหาย และเร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงโดยละเอียด เพื่อรวบรวมข้อมูลให้กับพนักงานสอบสวนต่อไป โดยภาคธนาคารมีความห่วงใยและพร้อมร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือ ป้องกันและติดตามผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

ทั้งนี้ สมาคมธนาคารไทยและธนาคารสมาชิกตระหนักถึงภัยทางการเงินที่มีความซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น โดยทางชมรมป้องกันและปราบปรามทุจริต และศูนย์ประสานงานการรักษาความมั่นคงปลอดภัยเทคโนโลยีสารสนเทศภาคธนาคาร (TBCERT) ได้เร่งพัฒนาแนวทางการจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ขอร่วมมือประชาชนดังนี้


1. ไม่ดาวน์โหลดโปรแกรมจากแหล่งอื่น นอกจากแหล่งที่ได้รับการควบคุมและรับรองความปลอดภัยจากผู้พัฒนาระบบปฏิบัติการที่เป็น Official Store อาทิ Play Store หรือ App Store เท่านั้น

2. ไม่ตั้ง password ซ้ำ หรือ ใช้ร่วมกับ Mobile Banking 

3. ไม่ทำการสแกนใบหน้า หรือยืนยันตัวตนผ่านแอปพลิเคชันที่ไม่รู้จัก


4. ไม่กดลิงก์จาก SMS แปลกปลอม โดยภาคธนาคารไม่มีนโยบายส่งข้อความ SMS แนบลิงก์ทุกชนิด หรือมีข้อความให้แอด Line ID หากได้รับ SMS ดังกล่าว อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด 

5. ควรสังเกตโล่ ที่อยู่ด้านหน้า Line account เสมอ ซึ่งควรมีโล่สีเขียว หรือน้ำเงินเข้ม เท่านั้น 

6. หากต้องการทำธุรกรรมใด ๆ ควรโทรกลับไปที่หน่วยงานที่ถูกแอบอ้างด้วยตนเอง

หากลูกค้าธนาคารพบธุรกรรมผิดปกติหรือมีข้อสงสัย ขอให้ติดต่อคอลเซ็นเตอร์หรือสาขาของธนาคารที่ลูกค้าใช้งานทันที เพื่อแจ้งตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของธุรกรรม โดยธนาคารจะดูแลแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง