ขนส่งฯ ขอความร่วมมือ รถบรรทุก เลี่ยงใช้ผิวจราจร ช่วงหยุดยาวฯ 3 – 8 ก.ค.นี้

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมการขนส่งทางบก ขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุกขนาดใหญ่ หลีกเลี่ยง การขนส่งสินค้าและการวิ่งรถเปล่า ช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ระหว่างวันที่ 3 – 8 กรกฎาคม 2563 


นายยงยุทธ  นาคแดง รองอธิบดีกรมการขนส่งทางบก เปิดเผยว่า เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุทางถนนที่อาจก่อให้เกิดความสูญเสียต่อผู้ใช้รถใช้ถนน กรมการขนส่งทางบกขอความร่วมมือผู้ประกอบการขนส่งสินค้าด้วยรถบรรทุก หลีกเลี่ยงการขนส่งสินค้าและงดการใช้รถที่ไม่มีการบรรทุกสินค้า (รถเปล่า) ช่วงวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ตั้งแต่วันที่ 3 – 8 กรกฎาคม 2563 โดยได้ขอความร่วมมือไปยังองค์กรด้านการขนส่งสินค้า จำนวน 14 แห่ง เช่น สหพันธ์การขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย, สมาคมขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย, สมาคมขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ไทย, สมาคมขนส่งสินค้าภาคอีสาน, สมาคมผู้ประกอบการขนส่งแหลมฉบัง ชลบุรี, สมาคมขนส่งสินค้าเพื่อการนำเข้าและส่งออก เป็นต้น 

หากผู้ประกอบการขนส่งรายใดมีความจำเป็นต้องทำการขนส่งสินค้าในช่วงเวลาดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงเส้นทางและช่วงเวลาที่มีการสัญจรเป็นจำนวนมาก และตรวจสอบสภาพความมั่นคงแข็งแรงและอุปกรณ์ส่วนควบของรถให้พร้อมใช้งานทุกครั้ง พร้อมกำกับดูแลผู้ขับรถให้ปฏิบัติตามข้อกำหนดตามกฎกระทรวงความปลอดภัยในการขนส่ง พ.ศ. 2558 และปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้ความเร็วต้องไม่เกินที่กฎหมายกำหนด พนักงานขับรถทุกคนพักผ่อนอย่างเพียงพอ มีสภาพร่างกายพร้อมที่จะปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างปลอดภัย ไม่ขับรถเกินชั่วโมงการทำงานที่กฎหมายกำหนด ไม่เสพสารเสพติดและดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ก่อนหรือในขณะขับรถ นอกจากนี้ ห้ามจอดรถในทางเดินรถหรือไหล่ทาง กรณีที่รถเกิดขัดข้องหรือมีความจำเป็นต้องจอดรถในช่องทางเดินรถหรือบริเวณไหล่ทางจะต้องแสดงสัญญาณไฟกะพริบและจัดให้มีเครื่องหมายตามลักษณะและเงื่อนไขที่กรมการขนส่งทางบกกำหนด พร้อมดำเนินการแก้ไขและเคลื่อนย้ายรถให้พ้นจากทางเดินรถโดยเร็วที่สุด เพื่อป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ


ด้านการบรรทุกสินค้า ต้องจัดให้มีสิ่งป้องกันไม่ให้สิ่งของที่บรรทุกตกหล่น รั่วไหล ส่งกลิ่น ส่องแสงสะท้อน หรือปลิวไปจากรถซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้ใช้รถใช้ถนน และห้ามบรรทุกน้ำหนักเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด  สำหรับรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ต้องตรวจสอบอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับยึดตรึงตู้คอนเทนเนอร์ (Twist Lock) ไว้กับตัวรถให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานอยู่เสมอ ในกรณีที่รถติดตั้ง GPS Tracking ให้ติดตามการใช้รถอย่างต่อเนื่องและต้องตรวจสอบอุปกรณ์ส่งสัญญาณให้สามารถส่งข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยศูนย์บริหารจัดการเดินรถระบบ GPS ทั้งที่ส่วนกลางและศูนย์ฯ GPS แต่ละจังหวัดจะเฝ้าระวังตรวจสอบการใช้งานรถตลอด 24 ชั่วโมง 

ทั้งนี้ หากผู้ประกอบการขนส่งและพนักงานขับรถละเลยการปฏิบัติตามกฎหมายจนเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง มีผู้เสียชีวิตและผู้ได้รับบาดเจ็บ มีความผิดทั้งพนักงานขับรถและผู้ประกอบการขนส่งต้องรับผิดชอบชดใช้ค่าเสียหายที่เกิดขึ้น โดยกรมการขนส่งทางบกจะพิจารณาพักใช้หรือเพิกถอนใบอนุญาตประกอบการขนส่ง  หากประชาชนพบพฤติกรรมผู้ขับของรถบรรทุกขนส่งสินค้าหรือรถโดยสารสาธารณะขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย แจ้งเหตุการณ์หรือร้องเรียนได้ผ่านแอปพลิเคชัน DLT GPS หรือ โทร.1584 ตลอด 24 ชั่วโมง .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ป.ป.ส. รวบ 3 นักค้ายาเสพติดต่างชาติ ที่สนามบินสุวรรณภูมิ

ป.ป.ส. รวบนักค้ายาเสพติดต่างชาติ 3 ราย ที่สนามบินสุวรรณภูมิ ส่งออกไปอิตาลี-อังกฤษ เลขาฯ ป.ป.ส. เผยความสำเร็จครั้งนี้เป็นผลจากการประสานงานใกล้ชิดระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ตรวจสอบตลาดปาล์มน้ำมัน หลังราคาพุ่ง

ช่วงนี้น้ำมันปาล์มตามท้องตลาดปรับราคาแพงขึ้น จากเดิมขวดละราว 10 บาท ทำให้ผู้บริโภคถึงกับโอดครวญ ขณะที่เกษตรกรชาวสวนปาล์มน้ำมัน ระบุแม้ช่วงนี้ราคาปาล์มน้ำมันขายได้ราคาดีที่สุดในรอบหลายปี แต่เกษตรกรกลับไม่มีปาล์มขาย

ข่าวแนะนำ

เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อน

กระทรวงการต่างประเทศ เดินหน้าเสนอ ครม. ตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเทคนิค JTC ไทย-กัมพูชา เจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลระหว่างไทยกับกัมพูชา ตามแนว MOU 2544 ยืนยันไม่ทำให้เสียเกาะกูด

เข้าสู่ฤดูหนาว

อุตุฯ ประกาศไทยเข้าสู่ฤดูหนาวแล้ว

กรมอุตุฯ ประกาศการเข้าสู่ฤดูหนาวของประเทศไทย ปี 2567 ตั้งแต่วันที่ 3 พ.ย. โดยเป็นการเข้าสู่ฤดูหนาวช้ากว่าปกติประมาณ 2 สัปดาห์ เนื่องจากมีพายุก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกและเคลื่อนเข้าสู่ทะเลจีนใต้ และยังมีฝนบางพื้นที่ ปีนี้จะหนาวกว่าปีที่แล้ว

ช้างพลายขุนเดช

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” ไปสถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง

ย้ายแล้ว “ช้างพลายขุนเดช” สู่สถาบันคชบาลแห่งชาติ จ.ลำปาง จบดราม่า หลังฝากเลี้ยงที่มูลนิธิอนุรักษ์ช้างและสิ่งแวดล้อม จ.เชียงใหม่