เม็กซิโกซิตี 1 ต.ค.- รถไฟขนส่งสินค้าหยุดกลางทะเลทรายทางตอนเหนือของเม็กซิโกนาน 24 ชั่วโมง ทำให้ผู้อพยพมากถึง 1,800 คนที่โดยสารมาด้วยต้องทนแดดทนหนาวกลางทะเลทราย
ผู้อพยพเหล่านี้โดยสารมากับขบวนรถไฟขนส่งสินค้าที่มุ่งขึ้นเหนือของเม็กซิโก หวังเดินทางต่อเข้าไปในสหรัฐ ส่วนใหญ่เป็นชาวเวเนซุเอลาและคนในประเทศอเมริกากลางที่หนีความยากจนและความรุนแรงในประเทศบ้านเกิด ขบวนรถไฟหยุดกลางทางซึ่งมีภูมิประเทศเป็นทะเลทราย ช่วงกลางดึกวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่น ในรัฐชิวาวา ทางเหนือของเม็กซิโก โดยไม่มีชี้แจงใด ๆ ชายเวเนซุเอลาเผยว่า ช่วงกลางคืนหนาวมาก ส่วนช่วงกลางวันร้อนมาก ขณะที่สตรีเวเนซุเอลากล่าวว่า ไม่มีรถโดยสารหรือรถยนต์ให้พวกเธอโดยสาร จึงต้องกระโดดขึ้นรถไฟ เพราะคิดเองว่ารถไฟจะไม่หยุด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับไม่ใช่
ชาวเมืองและทางการท้องถิ่นได้นำอาหารและน้ำมาให้ผู้อพยพ ก่อนที่รถไฟจะเคลื่อนตัวอีกครั้งในวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น โดยมุ่งหน้าไปยังเมืองซิวดัด ฮัวเรซ ของเม็กซิโก ผู้อพยพเหล่านี้ต้องรอผ่านกระบวนการยื่นขอเข้าสหรัฐที่ใช้เวลานาน รัฐบาลเม็กซิโกเผยว่า มีคนต่างด้าวอพยพข้ามพรมแดนเข้ามาในเม็กซิโกมากจนล้น เฉพาะเดือนกันยายนที่ผ่านมา กักตัวผู้อพยพมากกว่า 189,000 คน ขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐเผยว่า เฉพาะเดือนสิงหาคมเดือนเดียว มีคนต่างด้าวข้ามพรมแดนเข้ามาในสหรัฐร่วม 233,000 คน
ระบบรถไฟในเม็กซิโกมีอายุเก่าแก่นานกว่า 100 ปี ขบวนรถไฟขนส่งสินค้ามักแล่นอย่างช้า ๆ หรือหยุดกลางทาง บางครั้งเป็นการจงใจเพื่อไม่ให้ผู้อพยพอยากโดยสารไปด้วย สัปดาห์ที่แล้วบริษัทเดินรถไฟใหญ่ที่สุดของเม็กซิโกได้หยุดเดินรถถึงร้อยละ 30 เนื่องจากมีชาวต่างชาติลอบโดยสารจนล้น.-สำนักข่าวไทย