“พล.อ.ประวิตร” หนุนประกาศเขตเมืองเก่าร้อยเอ็ด

สำนักข่าวไทย 1 ก.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ประชุมคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ฯ หนุนประกาศเขตเมืองเก่าร้อยเอ็ด เสริมภูมิทัศน์คลองคูเมืองเดิมเป็นแหล่งท่องเที่ยวรัตนโกสินทร์ ดึงประชาชนมีส่วนร่วมอนุรักษ์





เมื่อเวลา 11.00 น. วันนี้ (1 ก.ค.) พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า ในการประชุมครั้งที่ 1/2563  ณ ห้องประชุม 301 ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล โดยมี ดร. รวีวรรณ ภูริเดช เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะเลขานุการ เป็นการประชุมผ่านระบบ Video Conference ร่วมกับกรรมการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

ที่ประชุมได้มีการพิจารณาและเห็นชอบการปรับปรุงระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์ และเมืองเก่า โดยขยายเขตกรุงรัตนโกสินทร์จาก 3 บริเวณ เป็น 4 บริเวณ ซึ่งบริเวณที่ 4 ครอบคลุมพื้นที่ต่อเนื่องบริเวณกรุงรัตนโกสินทร์ชั้นนอก และเห็นชอบโครงการปรับปรุงภูมิทัศน์คลองคูเมืองเดิม และปรับปรุงโครงสร้างพื้นฐานคลองหลอดวัดราชนัดดาและคลองหลอดวัดราชบพิธ ให้สวยงามเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญเชิงนิเวศและพื้นที่อนุรักษ์วัฒนธรรม โดยมอบให้กรุงเทพมหานคร ดำเนินงานโครงการให้มีความสอดคล้องกลมกลืนกับพื้นที่กรุงรัตนโกสินทร์และคำนึงถึงการใช้ประโยชน์พื้นที่ได้อย่างเหมาะสม


ที่ประชุมได้เห็นชอบการประกาศเขตพื้นที่เมืองเก่าร้อยเอ็ด ครอบคลุมพื้นที่กำแพงเมือง คูเมืองร้อยเอ็ด บึงพลาญชัย และศาสนสถานที่สำคัญ อาทิ วัดเหนือ วัดกลางมิ่งเมือง วัดบูรพาภิราม วัดสระทอง วัดบึงพลาญชัย และศาลเจ้าร้อยเอ็ด รวมทั้งย่านการค้าบริเวณถนนผดุงพานิช และแผนแม่บทและผังแม่บทการอนุรักษ์และพัฒนาบริเวณเมืองเก่า 3 เมือง ได้แก่ เมืองเก่าพะเยา เมืองเก่าสุพรรณบุรี และเมืองเก่าสุรินทร์ ซึ่งเป็นกลไกสำคัญให้กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และประชาชนในพื้นที่เมืองเก่า นำไปขับเคลื่อนงานอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่าให้มีความสอดคล้องกับบริบทพื้นที่ เพื่อดำรงคุณค่ามรดกทางวัฒนธรรมสืบต่อไป โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน

นอกจากนี้ ในการอนุรักษ์และพัฒนาเมืองเก่า จะเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน โดยหน่วยงานภาครัฐจะดำเนินการร่วมกับนักปราชญ์ท้องถิ่น ผู้นำชุมชน ผู้ทรงคุณวุฒิ และเยาวชนในท้องถิ่น เพื่อเชื่อมประสานให้เป็นเมืองที่มีชีวิต มีมิติทางสังคมและประวัติศาสตร์ รวมทั้งมีการวางแนวทางการแบ่งโซนหรือพื้นที่อนุรักษ์เมืองเก่าให้เยาวชน คนรุ่นใหม่ได้ใช้ประโยชน์และมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์ เช่น การมีลานกิจกรรมกลางแจ้ง เพื่อเปิดโอกาสให้มีพื้นที่แสดงดนตรี ศิลปะพื้นเมือง และโชว์ความสามารถของเยาวชนคนรุ่นใหม่ และยังเปิดโอกาสให้คนในท้องถิ่นร่วมเรียนรู้ประวัติศาสตร์วัฒนธรรมท้องถิ่นหลากหลายรูปแบบ อันจะนำมาซึ่งความภาคภูมิใจและความสมัครสมานสามัคคีของท้องถิ่น และเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ เช่น มีมัคคุเทศก์ท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้เกิดความยั่งยืนในการอนุรักษ์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก