กรุงเทพฯ 29 มิ.ย. – คณะที่ปรึกษาผลกระทบฯ ย้ำภาครัฐให้ความสำคัญพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก พร้อมกำชับประชาชนรักษามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
ศาสตราจารย์กิตติคุณนายแพทย์จรัส สุวรรณเวลา ประธานคณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคมในศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบฯ ครั้งที่ 12/2563 โดยเน้นย้ำถึง 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่
(1) การสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจไทย เนื่องจากการแพร่ระบาดของ โรคไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ประชาชนจำนวนมากต้องว่างงานและขาดรายได้ ดังนั้น การใช้จ่ายของภาครัฐโดยส่วนราชการที่เกี่ยวข้องต้องดำเนินโครงการที่สามารถสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ประชาชน โดยเฉพาะการสนับสนุนให้มีการจ้างงานระยะยาวภายในชุมชน การจ้างงานบัณฑิตจบใหม่ รวมถึงการจัดอบรมความรู้ที่สามารถนำไปต่อยอดในการประกอบอาชีพได้ เช่น ความรู้ทางดิจิทัลและเกษตรสมัยใหม่
(2) การรักษามาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) ต่อไป แม้ขณะนี้สถานการณ์ การแพร่ระบาดของโรคไวรัสโควิด-19 ภายในประเทศจะดีขึ้น และภาครัฐได้ผ่อนคลายมาตรการต่าง ๆ ที่ก้าหนด ขึ้นเพื่อจำกัดการแพร่ระบาดของโรค แต่จากตัวอย่างในต่างประเทศ ทำให้เห็นว่ายังมีโอกาสที่การแพร่ระบาดจะกลับมาอีกครั้งหนึ่งได้ ดังนั้น ประชาชนต้องร่วมมือกับภาครัฐในการปฏิบัติมาตรการต่าง ๆ ต่อไป
และ (3) ความจำเป็นในการเร่งฟื้นฟูภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากการแพร่ระบาดของโรคในช่วงที่ผ่านมา ทำให้การลงทุนของชาวต่างชาติในประเทศไทยต้องหยุดชะงักไป อย่างไรก็ตาม หากจะมีการเปิดให้ต่างชาติเข้ามา ลงทุนในประเทศไทยอีกครั้ง ถึงแม้จะเป็นในระยะสั้น ก็ต้องมีมาตรการควบคุมก้ากับดูแลที่เข้มงวด . – สำนักข่าวไทย