กรุงเทพฯ 26 มิ.ย. – ดัชนีเชื่อมั่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี พ.ค.ปรับตัวเพิ่มขึ้นสูงสุดในรอบ 5 เดือน หลังรัฐบาลคลายล็อกกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเดือนพฤษภาคม 2563 เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน 2563 ที่ระดับ 27.6 มาอยู่ที่ระดับ 40.9 ถือว่าปรับตัวดีขึ้นมาก ตัวเลขสูงสุดในรอบ 5 เดือน แต่ยังคงต่ำกว่าฐาน 50 สะท้อนภาพรวมภาวะธุรกิจเอสเอ็มอีส่วนใหญ่ยังคงมีความกังวลใจ แต่มีแนวโน้มดีขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา โดยเป็นผลจากการผ่อนปรนมาตรการของภาครัฐที่ให้สถานประกอบการหลายแห่งเปิดดำเนินการ และลดข้อจำกัดการเดินทางในประเทศ ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเริ่มขยายตัวทุกภูมิภาค
ทั้งนี้ สาเหตุการปรับขึ้น เนื่องจากองค์ประกอบด้านคำสั่งซื้อ ปริมาณการผลิต การค้าและบริการ และกำไร ปรับเพิ่มขึ้นค่อนข้างมากมาอยู่ที่ระดับ 35.2 35.6 และ 35.1 ตามลำดับ ส่วนองค์ประกอบด้านการลงทุน และการจ้างงาน เพิ่มมาอยู่ที่ระดับ 43.9 และ 42.5 ตามลำดับ ทำให้ดัชนีความเชื่อมั่นฯ เพิ่มขึ้นทุกภูมิภาค และเกือบทุกสาขาธุรกิจ เนื่องจากการผ่อนปรนมาตรการของภาครัฐมากขึ้น ทำให้สถานประกอบการเริ่มดำเนินการได้และจำหน่ายสินค้าและให้บริการได้ดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า
สำหรับดัชนีความเชื่อมั่นฯ คาดการณ์ 3 เดือนข้างหน้าอยู่ที่ระดับ 60.6 ปรับเพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สูงสุดในรอบ 8 เดือน ที่ระดับ 53.0 ซึ่งเป็นการปรับตัวค่อนข้างมาก และสูงกว่าค่าฐาน 50 เพราะผู้ประกอบการเอสเอ็มอีส่วนใหญ่มองสถานการณ์ดีขึ้นเมื่อเทียบกับปัจจุบัน จากสัญญาณบวกของการขยายตัวกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเริ่มจำหน่ายสินค้าและบริการได้มากขึ้น อีกทั้งสถานการณ์การติดเชื้อคลี่คลายลงมาก ส่งผลให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีคาดการณ์ทั้งกำลังซื้อ การผลิตทั้งสินค้า และการให้บริการ รวมถึงผลประกอบการเพิ่มขึ้น แต่ยังมีความกังวลเรื่องต้นทุนสินค้าที่จะสูงขึ้นในอนาคตและข้อจำกัดการเดินทางมาท่องเที่ยวของชาวต่างชาติ
ส่วนปัจจัยสำคัญที่มีผลกระทบต่อเอสเอ็มอี ได้แก่ ภาวะเศรษฐกิจในประเทศและอำนาจซื้อของประชาชน มาตรการด้านต่าง ๆ ของรัฐบาล และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภค การแข่งขันในตลาด และราคาต้นทุนสินค้า/ค่าแรงงาน.-สำนักข่าวไทย