ย้ายต้นไม้สร้างอุโมงค์ทางเดินลอด ถ.หน้าพระลาน-ถ.มหาราช

กรุงเทพฯ 20 มิ.ย.- โครงการอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลานและถนนมหาราช มูลค่า 1,100 ล้านบาท เพื่ออำนวยความสะดวก และปลอดภัยแก่นักท่องเที่ยว คาดแล้วเสร็จปีหน้า ตอนนี้มีการล้อมย้ายต้นไม้ไปบางส่วน ซึ่งต้นไม้ทุกต้นจะถูกนำกลับมาปลูกที่เดิมหลังการก่อสร้างเสร็จสิ้น


ต้นลีลาวดีพันธุ์เพชรเขาวัง ที่กำลังแตกช่อออกดอก บางดอกเริ่มบานเผยให้กลีบดอกสีนวลเรียงตัวสวย เป็นต้นลีลาวดีที่ถูกย้ายมาจากพื้นที่ก่อสร้างโครงการขุดอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลานและถนนมหาราช เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมบริเวณสนามหลวง รองรับนักท่องเที่ยว และเพื่อความปลอดภัยในการสัญจร ซึ่งมีการล้อมย้ายโดยรุกขกรที่ได้รับการอบรม ก่อนนำมาปลูกไว้ที่สวนสมเด็จพระปกเกล้าแห่งนี้ และได้รับการดูแลเป็นอย่างดี


ผอ.เขตพระนคร ให้ข้อมูลว่า สำนักงานเขตรับผิดชอบล้อมต้นไม้ทั้งหมดในพื้นที่ก่อสร้าง ส่วนการเคลื่อนย้ายจะแบ่งกันดูแล โดยสำนักงานเขตเคลื่อนย้ายต้นไม้ในพื้นที่ท่าช้าง คือ ต้นลีลาวดี 29 ต้น ที่ย้ายมาอนุบาลที่สวนสมเด็จพระปกเกล้าแล้วทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีต้นปีป 4 ต้น และต้นนนทรีอีก 1 ต้น ซึ่งทหารเรือรับผิดชอบเคลื่อนย้ายไปปลูกแถวศาลายา นครปฐม ส่วนพื้นที่สนามหลวงเป็นความรับผิดชอบของสำนักการโยธา กทม. มีต้นไม้เกือบ 50 ต้น กว่าร้อยละ 90 เป็นต้นมะขาม และเมื่อก่อสร้างเสร็จทุกต้นจะนำกลับมาปลูกไว้ที่เดิม


รอง ผอ.เขตพระนคร ซึ่งเชียวชาญในการล้อมย้ายต้นไม้ บอกว่า ลีลาวดีที่เป็นไม้ไม่มีแก่น สามารถล้อมย้ายได้ภายใน 5 วัน ขณะที่ต้นมะขามเป็นไม้มีแก่น จะใช้เวลาในการล้อมอย่างน้อย 45 วัน ก่อนเคลื่อนย้ายได้ ซึ่งขั้นตอนจะเริ่มจากตัดยอด ริดใบ เพื่อลดการคายน้ำ ทิ้งไว้อย่างน้อย 15 วัน จากนั้นขุดดินรอบๆ ออก ทิ้งไว้อีก 15 วัน ก่อนตัดรากแขนง ซึ่งเป็นรากที่ใช้ดูดซับอาหาร ทิ้งไว้อีก 15 วัน คล้ายกับการเตือนต้นไม้ว่าใกล้จะย้ายแล้ว สุดท้ายคือตัดรากแก้ว ซึ่งเป็นรากที่ใช้ทรงตัวและดูดซับน้ำพันรากไว้ และเคลื่อนย้ายด้วยความระมัดระวัง ไม่ให้รากแก้วเสียหาย มิฉะนั้นต้นไม้อาจตาย ซึ่งการล้อมต้นมะขามที่สนามหลวงผ่านมาแล้ว 20 วัน ยังต้องรออีกอย่างน้อย 25 วัน จึงจะย้ายได้

การล้อมย้ายต้นไม้ใหญ่และอายุมากไม่ว่าจะเป็นไม้ชนิดใด จึงจำเป็นจึงใช้ผู้เชี่ยวชาญ ทำตามขั้นตอน ตั้งแต่การล้อม การย้าย ไปจนถึงการอนุบาลที่ต้องเหมาะสมกับต้นไม้แต่ละชนิด โดยเฉพาะต้นไม้เก่าแก่ที่อยู่คู่กับพื้นที่ประวัติศาสตร์เช่นท้องสนามหลวง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ