สำนักข่าวไทย 15 มิ.ย.-กทม.แจงย้ายต้นไม้เพราะจำเป็น สร้างอุโมงค์เสร็จแล้วค่อยนำมาปลูก ส่วนกรมศิลป์ฯ ยันไม่เกี่ยวอยู่นอกพื้นที่ แค่แนะนำวิธีการจัดการไม่ให้กระทบโบราณสถานโดยรอบ
นายไทวุฒิ ขันแก้ว ผู้อำนวยการสำนักการโยธา กรุงเทพมหานคร (กทม.) กล่าวถึงกรณีที่โลกโซเชียลวิจารณ์การล้อมย้ายต้นไม้ออกจากพื้นที่โครงการขุดอุโมงค์ลอดถนนหน้าพระลาน-ถนนมหาราช จะทำให้ต้นไม้ได้รับความเสียหาย ว่า โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน และถนนมหาราช ทำขึ้นก็เพื่อให้เกิดความปลอดภัย แก่ประชาชนและนักท่องเที่ยว ที่จะเข้ามาชมพระบรมมหาราชวัง รวมทั้งปรับปรุงสภาพแวดล้อมของพื้นที่บริเวณสนามหลวงให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยพื้นที่สีเขียวยังคงมีอยู่ แต่อาจลดลงบ้างในพื้นที่ก่อสร้างตามรูปแบบทางขึ้นลง อย่างไรก็ตามจะพยายามปลูกต้นไม้ใหญ่เพิ่มขึ้นในตำแหน่งที่เหมาะสม โดยพิจารณาทั้งด้านกายภาพและการดูแล
ส่วนการย้ายต้นไม้ได้ดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ ขณะนี้มีต้นไม้ที่นำไปอนุบาลที่จังหวัดสระบุรีแล้ว คือต้นมะขาม 44 ต้น ต้นประดู่ 2 ต้น และต้นนนทรี 1 ต้น และเมื่อก่อสร้างเสร็จต้นไม้ทุกต้นจะถูกนำกลับมาไว้ที่เดิม เพราะมีแผนดำเนินการไว้อยู่แล้ว และจะมีต้นไม้บางส่วนไปปลูกในพื้นที่สีเขียวของ กทม.ด้วย
ด้านนายสุรเดช อำนวยสาร ผู้อำนวยการเขตพระนคร กล่าวว่า การล้อมย้ายต้นไม้บริเวณแนวก่อสร้างจำเป็นต้องทำ เพราะต้นไม้กีดขวางพื้นที่ก่อสร้าง ซึ่งในส่วนความรับผิดชอบของเขตพระนคร คือ ต้นลีลาวดี โดยล่าสุดวันนี้ได้ขุดล้อมย้ายต้นลีลาวดีทั้งหมดในบริเวณท่าช้าง 29 ต้น และนำไปปลูกที่ สวนลอยฟ้า พระปกเกล้าสกายปาร์ค สวนสาธารณะบนสะพานกลางแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อดูแลและบำรุงรักษาให้แข็งแรงสมบูรณ์ต่อไป ส่วนต้นปีป 3 ต้น ย้ายไปอยู่ในความดูแลของทหารเรือ และต้นนนทรี อีก 1 ต้น ถูกนำไปปลูกแถวศาลายา
ส่วนกรณีที่มีคำถามจากโลกโซเชียลว่าการย้ายต้นไม้ในพื้นที่พระบรมมหาราชวังตามที่เป็นข่าวได้รับการประสาน หรือขออนุญาตจากกรมศิลปากร แล้วหรือไม่นั้น ประเด็นนี้ผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังนายประทีป เพ็งตะโก อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า พื้นที่การก่อสร้างที่เป็นถนน เกาะกลาง หรือทางเดิน ล้วนอยู่นอกพื้นที่โบราณสถาน กรมฯไม่มีอำนาจเข้าไปจัดการ เพียงจะให้คำแนะนำในการที่จะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้มีผลกระทบกับพื้นที่โบราณสถานโดยรอบ
โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน และถนนมหาราช พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการอนุรักษ์และพัฒนากรุงรัตนโกสินทร์และเมืองเก่า ได้ประชุมเรื่องการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอด เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมบริเวณสนามหลวงให้เป็นระเบียบเรียบร้อย มีศักยภาพรองรับนักท่องเที่ยวและเกิดความปลอดภัยในการสัญจร โดยมอบให้ กทม.ดำเนินการให้เหมาะสม สอดคล้องกลมกลืนในพื้นที่ โดยอนุมัติให้ใช้งบประมาณวงเงินก่อสร้างรวม 1,125 ล้านบาท ผูกพันในปี 2563-2564 ประกอบด้วย
1. โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน จำนวน 2 จุด วงเงิน 945 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 540 วัน ได้แก่ อุโมงค์ทางเดินลอดหน้าพระลาน
-จุดที่ 1 ระยะทาง 96 เมตร พื้นที่รวม 6,280 ตารางเมตร พร้อมห้องน้ำชาย 21 ห้อง ห้องน้ำหญิง 55 ห้อง โถงพักคอยและทางเดิน อาคารกองอำนวยการ และอุโมงค์ทางเดินลอดถนนหน้าพระลาน -จุดที่ 2 ระยะทาง 37 เมตร พื้นที่รวม 350 ตารางเมตร พร้อมงานก่อสร้างระบบสุขาภิบาล ระบบระบายน้ำ ระบบไฟแสงสว่าง ระบบระบายอากาศและปรับอากาศ ระบบจราจรและงานปรับปรุงภูมิทัศน์ และงานอื่นที่เกี่ยวข้อง
2. โครงการก่อสร้างอุโมงค์ทางเดินลอดถนนมหาราช วงเงิน 180 ล้านบาท ระยะเวลาก่อสร้าง 360 วัน ระยะทาง 90 เมตร พื้นที่รวม 1,146 ตารางเมตร พร้อมห้องน้ำชาย 15 ห้อง ห้องน้ำหญิง 20 ห้อง โถงพักคอย ทางเดิน และงานก่อสร้างระบบสุขาภิบาล ระบบระบายน้ำ ระบบไฟแสงสว่าง ระบบระบายอากาศและปรับอากาศ ระบบจราจรและงานปรับปรุงภูมิทัศน์ และงานอื่นที่เกี่ยวข้อง เมื่อโครงการสำเร็จจะทำให้เกิดความปลอดภัยในการสัญจร ไม่ต้องเดินข้ามถนน รวมถึงเป็นการปรับปรุงสภาพแวดล้อมของพื้นที่บริเวณสนามหลวงให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2564 .-สำนักข่าวไทย