สธ.18 มิ.ย.-ศบค.เผยพบผู้ป่วย 6 คนกลับมาจากต่างประเทศ ซาอุฯ-อินเดีย ไทยไม่มีผู้ป่วยติดเชื้อในประเทศรวม 24 วัน
พญ.พรรณประภา ยงค์ตระกูล ผู้ช่วยโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด -19 (ศบค.) แถลงข่าวสถานการณ์ประจำวันของโรคโควิด -19 ว่า วันนี้ (18 มิ.ย.) พบผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน 6 คน เป็นผู้ที่ติดเชื้อมาจากต่างประเทศ พักอยู่ใน state quarantine ทำให้ผู้ติดเชื้อในประเทศ เท่ากับ 0 คน ไม่พบการติดเชื้อในประเทศมาแล้ว 24 วัน ทำให้สถานการณ์ภาพรวมการติดเชื้อโควิด-19 มีรวม 3,141 คน เป็นการติดเชื้อในประเทศ 2,444 คน พักใน state quarantine 204 คน รักษาหายแล้ว 2,297 คน เหลือรักษาตัวในโรงพยาบาล 86 คน ผู้เสียชีวิตคงที่ 58 คน
พญ.พรรณประภา กล่าวว่า สำหรับผู้ติดเชื้อทั้ง 6 คนที่พบประกอบด้วยผู้ที่เดินทางมาจากประเทศซาอุดิอาระเบีย 5 คน เป็นนักศึกษาชาย อายุ 23ปี 24 ปีและ27 ปี ,อายุ 26 ปี2 คน ส่วนอีก 1คนเป็นเพศหญิงเดินทางกลับมาจากประเทศอินเดีย ส่วนสถานการณ์ทั่วโลกมีผู้ป่วยยืนยัน 8.4 ล้านคน มีผู้ป่วยรายใหม่ 1.4 แสนคน เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 5.2 พันคน เสียชีวิตรวม 4.5 แสนคน
ทั้งนี้ สหรัฐอเมริกายังมีผู้ป่วยยืนยันมากที่สุด คือ2.2 ล้านคน พบผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่ม 2.6 หมื่นคน ส่วนสถานการณ์ในเอเชีย ประเทศอินเดีย ยังมีผู้ป่วยสะสมมากที่สุดและมีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นมากที่สุด คือ1.3 หมื่นคน สะสมรวม 3.67 แสนคน
พญ.พรรณประภา กล่าวว่า ประเด็นที่น่าสนใจ คือปักกิ่งหลังมีการแพร่เชื้อระบาดระลอกใหม่ คณะกรรมการการศึกษาเทศบาลนครปักกิ่ง จึงให้โรงเรียนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อ ทุกคนต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ในโรงเรียน เลือกเรียนที่บ้านได้ และเลื่อนเปิดเทอมชั้น ป.1-3 ออกไปก่อน ส่วนบราซิลมีผู้ติดเชื้อสะสมเกือบ 1 ล้านคนแล้ว และพบผู้ติดเชื้อมากกว่า 3.4 หมื่นคนต่อวัน เสียชีวิต 1,282 คน
สำหรับความหนาแน่นในส่วนของรถโดยสารสาธารณะต่างๆ มีคนจำนวนมาก มีข้อแนะนำอย่างไรนั้น พญ.พรรณประภา กล่าวว่า ตามประกาศ ศบค.ฉบับที่ 5/2563 เรื่องการโดยสารสาธารณะ กำหนดให้มีความหนาแน่นร้อยละ 70 ของผู้โดยสารรวมทั้งหมด แต่ชั่วโมงเร่งด่วนจะหนาแน่นมากกว่านั้น ทำได้เพียงป้องกันตัวเองไม่ให้ติดเชื้อหรือแพร่ กระจายเชื้อ ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย ลดการสัมผัสในพื้นที่สัมผัสร่วม หากต้องสัมผัสจริงๆ อย่าแคะแกะเกาตา จมูก แต่ควรรีบล้างมือและเผื่อเวลาการเดินทาง หากเห็นว่ามีความหนาแน่นในขนส่งสาธารณะ อาจรอก่อนและค่อยรอคันถัดไป.-สำนักข่าวไทย