กทม.2 มิ.ย.-อธิบดีกรมอนามัย ตรวจเยี่ยมพร้อมแนะแนวทางสำหรับศูนย์เด็กเล็กฯตามมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 เพื่อความปลอดภัยและสุขอนามัยที่ดี
วันนี้(2มิ.ย.) ที่ศูนย์เด็กเล็กและการส่งเสริมโภชนาการเด็กปฐมวัย เคหะร่มเกล้า เขตลาดกระบัง แพทย์หญิง พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมอนามัย ลงพื้นที่ให้คำแนะนำถึงแนวทางการป้องกันโรคโควิด-19 พร้อมกล่าวว่าในช่วงการผ่อนปรนตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด -19 แม้สถานการณ์ของโรคฯจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น แต่ประชาชนยังต้องป้องกันตนเอง สวมหน้ากากทุกครั้งเมื่อออกจากบ้า เว้นระยะห่างทางสังคม โดยเฉพาะศูนย์ดูแลเด็กที่มีเด็กเล็กต้องให้ความระมัดระวังเป็นพิเศษ ซึ่งการเตรียมความพร้อมก่อนเปิดศูนย์เด็กเล็กตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขควรมีการกำหนดจุดรับ-ส่งเข้าออกเฉพาะจุดและไม่อนุญาตให้บุคคลภายนอกเข้ามาพื้นที่ภายในของศูนย์เด็กเล็ก มีจุดคัดกรองวัดไข้ จุดล้างมือ ล้างเท้า เปลี่ยนเสื้อผ้าเด็ก รวมทั้งเตรียมการทำความสะอาดสถานที่ อุปกรณ์ และยานพาหนะรับส่งเด็ก กำหนดพื้นที่การทำกิจกรรม การจัดพื้นที่นอนกลางวัน การรับประทานอาหาร ขณะที่ในส่วนของครูและผู้ดูแลเด็กควรมีการทำความสะอาดร่างกายก่อนปฏิบัติงาน และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่กับเด็ก หากมีอาการเจ็บป่วยให้หยุดงานและพบแพทย์ทันที
ด้านนาย สนั่น จันโส ประธานศูนย์พัฒนาเด็กเล็กฟื้นนครระยะ 1 โซน 7 ร่มเกล้า เปิดเผยว่าที่นี่มีการเตรียมความพร้อมและปฏิบัติตามแนวทางการป้องกันโรคโควิด 19 ของกระทรวงสาธารณสุข และเป็นต้นแบบให้กับชุมชนใกล้เคียง โดยมีการคัดกรองเด็กก่อนเข้าศูนย์ฯและรับส่งเด็กโดยเว้นระยะห่าง ให้เด็กล้างมือด้วยน้ำสบู่ ล้างเท้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อชนิดอ่อนและเปลี่ยนเสื้อผ้า สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าให้กับเด็ก ส่วนการจัดกิจกรรมกลางแจ้งได้มีการผลัดเปลี่ยนแต่ละห้องสลับกันเล่นและจัดกิจกรรมที่บริเวณโดม วันละ 1 ห้อง
สำหรับกิจกรรมในห้องเรียน แบ่งเป็นกลุ่มๆละ 5 – 6 คน เพื่อลดจำนวนเด็ก ลดการสัมผัสใกล้ชิดกัน รวมทั้งก่อนและหลังรับประทานอาหารให้เด็กล้างมือด้วยสบู่ทุกครั้ง จัดที่นั่งรับประทานอาหารแบบเว้นระยะห่าง 1 – 2 เมตร รวมทั้งจัดที่นอนให้เด็กโดยเว้นระยะห่างระหว่างกัน และทำความสะอาดอุปกรณ์ เครื่องนอน ของเล่นทุกวัน นอกจากนี้ได้มีการทำความสะอาดสถานที่ที่เด็กสัมผัสบ่อยๆ เช่น ราวบันได ลูกบิดประตูทุก 1 – 2 ชั่วโมงโดยจะมีครูที่ช่วยกันช่วยกันและทำงานประสานกับผู้ปกครองเด็กสร้างการมีส่วนร่วมของครู-ผู้ปกครองในการดูแลเด็กและป้องกันการแพร่ระบาดโรคฯในชุมชนด้วย .-สำนักข่าวไทย