มะนิลา 1 มิ.ย. – กรุงมะนิลา นครหลวงของฟิลิปปินส์ ผ่อนคลายมาตรการปิดเมืองแล้วในวันนี้หลังจากใช้มาตรการล็อกดาวน์มายาวนานมากที่สุดแห่งหนึ่งในโลก เพื่อให้เศรษฐกิจได้ฟื้นตัวจากผลกระทบรุนแรงจากการระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่
ระบบขนส่งสาธารณะในกรุงมะนิลา เช่น รถไฟและรถโดยสาร ได้รับอนุญาตให้กลับมาให้บริการอีกครั้ง แต่เป็นไปอย่างจำกัด ทำให้บรรดาผู้โดยสารต้องรอคิวกันยาวเป็นเวลาหลายชั่วโมง และผู้ที่ต้องเดินทางไปทำงานต้องตกค้างอยู่บนถนนหลายร้อยคน บางคนต้องใช้วิธีเดินเท้าเป็นระยะทางหลายกิโลเมตรเพื่อไปทำงานในวันแรกหลังจากต้องเก็บตัวอยู่กับบ้านเป็นเวลานาน 11 สัปดาห์ ในขณะที่การขนส่งสาธารณะกลับมาให้บริการแล้ว แต่รถสองแถว “จี๊ปนีย์” ที่เป็นเอกลักษณ์ของกรุงมะนิลา ยังไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาวิ่งบนท้องถนนเนื่องจากลักษณะที่นั่งที่ผู้โดยสารต้องนั่งเบียดชิดกัน รัฐบาลฟิลิปปินส์อนุญาตให้ธุรกิจส่วนใหญ่ในกรุงมะนิลา กลับมาเปิดอีกครั้ง ยกเว้น โรงเรียน บาร์ ภัตตาคารที่ให้นั่งรับประทานอาหารในร้าน ยังคงปิดบริการต่อไป ฟิลิปปินส์พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้ว 18,638 ราย และมีผู้เสียชีวิต 960 ราย แต่ผู้เชี่ยวชาญเกรงว่า การตรวจหาเชื้อไวรัสอย่างจำกัด เท่ากับว่าจำนวนผู้ติดเชื้อที่แท้จริงอาจจะมีจำนวนสูงมากกว่านี้ การเปิดธุรกิจในวันนี้เกิดขึ้นหลังจากมีตัวเลขออกมาว่า เศรษฐกิจฟิลิปปินส์จะหดตัวร้อยละ 0.2 ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบกว่า 20 ปี เศรษฐกิจของประเทศจะประสบปัญหารุนแรงมากยิ่งขึ้นหลังจากที่เจ้าหน้าที่คาดหมายว่า ชาวฟิลิปปินส์หลายแสนคนที่ไปทำงานในต่างประเทศจะต้องตกงานเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทั่วโลก แรงงานชาวฟิลิปปินส์เหล่านี้ นำรายได้เข้าประเทศคิดเป็น 1 ใน 10 ของจีดีพี ของฟิลิปปินส์ และเป็นตัวช่วยพยุงเศรษฐกิจมาเป็นระยะเวลายาวนาน.-สำนักข่าวไทย