รวบชายอังกฤษจับภรรยาชาวไทยโยนระเบียงคอนโดฯ ชั้น 8 เจ็บสาหัส

กทม. 28 พ.ค. – รวบแล้วชายชาวอังกฤษจับภรรยาชาวไทยโยนจากระเบียงคอนโดฯ ชั้น 8 จ.ระยอง นอนจมกองเลือดบาดเจ็บสาหัส หลังหนีมากบดานในกรุงเทพฯ สารภาพสาเหตุทำร้ายภรรยาเพราะหึงหวง เกรงภรรยามีชายใหม่ เนื่องจากโอนทรัพย์สินต่างๆ ให้เป็นชื่อภรรยาหมดแล้ว

เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 28 เมษายนที่ผ่านมา เจ้าหน้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านฉาง จังหวัดระยอง รับแจ้งมีเหตุทะเลาะวิวาทที่ชั้น 8 คอนโดฯ แห่งหนึ่งริมถนนหาดพลา อำเภอบ้านฉาง ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สายตรวจเข้าระงับเหตุ พบว่าห้องเกิดเหตุถูกล็อก ภายในได้ยินเสียงทะเลาะวิวาทระหว่างชายกับหญิง มีเสียงฝ่ายหญิงร้องขอชีวิต ทราบชื่อภายหลังคือ นายเดวิด มาแชล อายุ 47 ปี สัญชาติอังกฤษ ส่วนฝ่ายหญิงคือ นางสาวสุกานดา ภรรยาชาวไทย เจ้าหน้าที่พยายามเจรจาเกลี้ยกล่อมอยู่หลายชั่วโมงไม่ให้ฝ่ายชายทำร้ายผู้หญิง


จนเวลาผ่านไปนานนับชั่วโมง เจ้าหน้าที่ซึ่งยืนเจรจาเกลี้ยกล่อมอยู่หน้าห้อง ได้ยินเหมือนมีสิ่งของตกหล่นบริเวณหลังห้องดังกล่าว จากนั้นมีเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือจากบริเวณระเบียงชั้น 7 เจ้าหน้าที่จึงรีบไปตรวจสอบ พบร่างของผู้หญิงนอนจมกองเลือดและร้องครวญครางขอความช่วยเหลือด้วยความเจ็บปวด กู้ภัยจึงรีบนำส่งโรงพยาบาลบ้านฉาง เพื่อให้แพทย์ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

พ.ต.อ.ไพทูรย์ ปาปะคัง ผู้กำกับการ สภ.บ้านฉาง จังหวัดระยอง เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ได้ควบคุมตัวผู้ชาย เพราะต้องรอสอบปากคำของผู้บาดเจ็บก่อน จนวันรุ่งขึ้นผู้บาดเจ็บให้ปากคำได้ จึงทราบว่าถูกนายเดวิดจับโยนลงมาจากระเบียงห้องพักชั้น 8 แต่โชคดีร่างไปตกค้างอยู่ชั้น 7 ทำให้รอดตายหวุดหวิด หลังจากทราบข้อเท็จจริง พนักงานสอบสวนจึงสอบปากคำพยานเพิ่มเติม และรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ
ก่อนยื่นเรื่องขออนุมัติหมายจับต่อศาลจังหวัดระยอง หลังเกิดเหตุ 2 วัน พร้อมทั้งนำหมายจับเข้าจับกุมนายเดวิดทันที ปรากฏว่าเมื่อไปถึงห้องพัก นายเดวิดได้หลบหนีไปก่อนแล้ว จากนั้นจึงแจ้งประสานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดระยอง และสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

ต่อมาเมื่อวานนี้ พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง แถลงจับกุมนายเดวิด มาแชล ได้แล้ว ตามที่ศาลจังหวัดระยองออกหมายจับ ข้อหา “หน่วงเหนี่ยวหรือกักขังผู้อื่น หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และพยายามฆ่า”


หลังก่อเหตุนายเดวิดได้หลบหนีเข้ากรุงเทพฯ โดยรถยนต์เก๋ง มาเช่าโรงแรมย่านซอยรัชดาฯ 17 และออกจากโรงแรมไปเช้าวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยไม่แจ้งพนักงาน หนีไปซ่อนตัวที่ย่านประตูน้ำ ย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และรามคำแหง แต่งกายปิดบังใบหน้า กระทั่งระบบ Biometric แจ้งเตือนว่านายเดวิดเข้าพักที่โรงแรมแห่งหนึ่งในซอยลาดพร้าว 130 เจ้าหน้าที่จึงเข้าจับกุมตัว จากการสอบสวนพบสาเหตุทำร้ายภรรยาเนื่องจากหึงหวง เกรงภรรยาจะไปมีชายใหม่ เนื่องจากผู้ต้องหาโอนทรัพย์สินต่างๆ ให้เป็นชื่อของภรรยาหมดแล้ว

ขณะนี้พนักงานสอบสวนนำผู้ต้องหาฝากขังศาลจังหวัดระยอง รวมทั้งหมด 3 ข้อหา คือ กักขังหน่วงเหนี่ยว พยายามฆ่า และเสพยาเสพติด โดยข้อหาที่ 3 พนักงานสอบสวนได้แจ้งเพิ่มเติมเมื่อวานนี้ หลังผลการตรวจของแพทย์พบสารเสพติดในตัวผู้ต้องหา ส่วนภรรยาคนไทยอาการปลอดภัยและหายดีแล้ว กลับไปพักอยู่บ้านต่างจังหวัดกับญาติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

ล้มล้างการปกครอง

ศาล รธน.มีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้อง “ทักษิณ-พท.” ล้มล้างการปกครอง

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเสียงข้างมากไม่รับคำร้องของนายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ขอให้ศาลวินิจฉัยว่า “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ