ยธ.24 พ.ค.-กระทรวงยุติธรรม เดินหน้านำเทคโนโลยี ปราบผู้ค้ายาเสพติด เผยสถิติ 8 จังหวัดภาคอีสานยังน่าห่วง พบจับกุมคดียาบ้าสูงสุด
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม(ยธ.) เปิดเผยสถิติการจับกุมคดียาเสพติดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง 8 จังหวัด ว่าจากการลงพื้นที่ตรวจเรือนจำในจังหวัดนครราชสีมา ตนได้มีโอกาสพูดคุยกับทางสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ภาค 3 หรือ ปปส.ภ.3 ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่ 8 จังหวัดคือชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ ยโสธร อำนาจเจริญ อุบลราชธานี พบสถิติตัวเลข ผู้เสพ นักค้า ยังน่าเป็นห่วง ตลอด 6 เดือน ตั้งแต่ตุลาคม 2562ถึงมีนาคม 2563 มีสถิติการจับกุมถึง 17,685 คดี ผู้ต้องหา 18,360 คน
จังหวัดที่มีการจับกุมมากที่สุดคือ อุบลราชธานี รองลงมาคือ นครราชสีมา และศรีสะเกษ เนื่องจากจังหวัดดังกล่าวเป็นจังหวัดขนาดใหญ่มีประชากรจำนวนมาก จึงส่งผลต่อสถานการณ์การค้าและการแพร่ระบาดของยาเสพติด ชนิดของยาเสพติดที่มีการจับกุมมากที่สุดคือยาบ้า ไอซ์ และ กัญชา
นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ปัญหายาเสพติดที่พบในภาคตะวันออก เฉียงเหนือตอนล่าง เป็นเพราะบางจังหวัดมีชายแดนติดกับประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง สปป.ลาว และกัมพูชา จึงมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในไทยอย่างต่อเนื่อง โดยพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ยังคงเป็นเป้าหมายเพราะสามารถลำเลียงยาเสพติดเข้าสู่ กรุงเทพฯ และปริมณฑลได้สะดวก
ทั้งนี้ ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 แม้จะมีการปิดด่านชายแดนไทย-สปป.ลาว และชายแดนไทย- กัมพูชา ทำให้การลำเลียงยาเสพติดยากขึ้น แต่ผู้ค้ายาก็ยังคงมีพฤติกรรมลักลอบจำหน่ายเช่นเดิมแต่มีการปรับเปลี่ยนวิธี เช่น ให้ลูกค้าโอนเงินก่อน และผู้ค้าจะให้เครือข่ายนำยาเสพติดไปส่งมอบให้แก่ลูกค้า โดยนำไปวางไว้ตามสถานที่ต่างๆ แล้วแจ้งให้ไปรับภายหลัง
“ที่ผ่านมาผมติดตามสถานการณ์เรื่องยาเสพติดมาตลอด กลุ่มผู้ค้ายังคงทำทุกวิถีทางเพื่อนำยาเสพติดเข้ามาจำหน่ายในทั่วทุกภาคของประเทศ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ร่วมมือกันทำทุกทางเพื่อแก้ไขปัญหา จากนี้จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทำงานติดตามเครื่อข่ายเหล่านี้มากขึ้น เพื่อนำไปสู่กระบวนการยึดทรัพย์เครือข่าย รวมถึงผู้บงการใหญ่ เพราะกลุ่มคนเหล่านี้ทำความเสียหายให้ประเทศและเยาวชนมาตลอด” รมว.ยุติธรรมกล่าว.-สำนักข่าวไทย