ทำเนียบฯ 13 พ.ค.-“วิษณุ” ยืนยันการผ่อนคลายกิจกรรม กิจการ ระยะที่ 2 ยังยึดเกณฑ์ระยะที่ 1 เป็นหลัก นำดัชนีผู้ป่วยสะสม หายป่วย และเสียชีวิต มาประเมิน ยอมรับอาจจะมีผ่อนปรนบางมาตรการ ขอให้รอที่ประชุม ศบค. พิจารณา
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการพิจารณาผ่อนคลายกิจกรรมและการเปิดกิจการในระยะที่ 2 ว่า ช่วงเย็นวันนี้ (13 พ.ค.) พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กำลังประชุมประเมินสถานการณ์ เพื่อรายงานที่ประชุมใหญ่ ศบค.ในวันศุกร์ที่ 15 พ.ค.นี้ โดยยังคงยึดเกณฑ์ที่ใช้กับการผ่อนคลายในระยะที่ 1 เป็นหลัก เช่น โอกาสเสี่ยงของบุคคล โอกาสเสี่ยงสถานที่ และประเภทของกิจกรรม รวมถึงต้องดูแต่ละประเภทกลุ่มคนที่จะได้รับความเสี่ยงด้วย เช่น กลุ่มคนที่อยู่บ้าน หรือ กลุ่มคนที่ต้องเดินทาง เด็กหรือผู้ใหญ่ เป็นต้น
รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ส่วนกิจกรรมบางประเภท หากทำ 5-10 คน อาจไม่มีความเสี่ยงเพราะมีการป้องกัน หรือบางอย่างมีความเสี่ยง เหล่านี้จะนำตัวเลขด้านสาธารณสุข ทั้งผู้ป่วยสะสม ผู้ป่วยกลับบ้าน ผู้เสียชีวิต มาเป็นดัชนีชี้วัดในการผ่อนคลายบางกิจกรรม และกิจการ แต่ยังมีสิ่งที่ไม่สบายใจและไม่สามารถผ่อนคลายได้ทั้งหมด เช่น การละเมิดเคอร์ฟิว การเดินทางข้ามจังหวัด จำนวนผู้เดินทางกลับจากต่างประเทศที่ยังมีจำนวนมากอยู่ สิ่งเหล่านี้จึงทำให้ไม่สามารถเปิดได้หมด ส่วนการที่ผู้ประกอบการขอขยายเวลาเคอร์ฟิว จากเดิม 22.00-04.00 น.นั้น ศบค.ชุดเล็กกำลังพิจารณาเรื่องนี้อยู่
ต่อข้อถามว่า การผ่อนคลายในระยะที่ 2 นี้ จะมีการผ่อนปรนบางมาตรการของรัฐบาลหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า อาจมีการผ่อนปรนในบางเรื่องก็ได้ ซึ่งเดิมรัฐบาลยังคงไม่ผ่อนปรนมาตรการ เคอร์ฟิว ขอความร่วมมืองดเดินทางข้ามจังหวัด การห้ามปิดน่านฟ้า งดกิจกรรมหมู่มาก แต่ต้องรอการพิจารณาของ ศบค.อีกครั้ง
นายวิษณุ กล่าวว่า ยังเร็วเกินไปที่จะมาพูดเรื่องยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เพราะการแก้ปัญหาหลายอย่างจำเป็นต้องมารวมที่รัฐบาล เพราะสามารถสั่งการไปยังทุกจังหวัดได้ และสามารถเยียวยาผลกระทบที่จะตามมาได้ทั่วถึง ซึ่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดบางครั้งไม่มีอำนาจนี้ .-สำนักข่าวไทย