กรุงเทพฯ 5 พ.ค.-เพื่อไทย ชูปฏิรูปพลังงานเพื่อลดภาระประชาชน แนะเจรจาผู้ประกอบการหอพัก คิดค่าไฟตามอัตราที่รัฐกำหนด
นายกิตติกร โล่ห์สุนทร ส.ส.ลำปาง พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร เปิดเผยว่า จากมาตรการที่รัฐบาลออกมาเพื่อลดภาระค่าไฟฟ้าให้ประชาชน ถือว่าเป็นนโยบายที่ดี แต่มองว่ามีกลุ่มคนบางส่วนที่ได้ประโยชน์ คือ เจ้าของหอพัก เจ้าของอพาร์ตเมนท์ มากกว่า เพราะราคาค่าไฟของหอพัก หรือ อพาร์ตเมนท์จะมีอัตราเฉลี่ยสูงกว่าที่รัฐกำหนดมาก ดังนั้น จากนโยบายดังกล่าวจึงไปเอื้อให้กับกลุ่มนายทุนเจ้าของหอพักมากกว่าที่จะช่วยเหลือประชาชน
“เนื่องจากการจ่ายค่าไฟตามสถานที่ประกอบการเหล่านี้ เจ้าของกิจการจะผลักภาระไปที่ผู้เช่า คือ คนที่หาเช้ากินค่ำ หรือนักเรียน นักศึกษา ที่จะต้องมารับภาระแทนเจ้าของกิจการ โดยผู้เช่าถูกคิดอัตราค่าไฟฟ้าสูงกว่าที่การไฟฟ้าคิดจริงมาก ดังนั้นอยากให้รัฐบาล หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเจรจาเพื่อลดภาระให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน มาตรการรัฐที่ให้ประชาชนหยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ กลายเป็นว่าไปเพิ่มภาระค่าใช้จ่ายของประชาชนให้เพิ่มสูงขึ้น ซึ่งกำไรของการไฟฟ้ารวมทุกองค์กรเฉลี่ยปีละหลายหมื่นล้านบาท หากรัฐต้องการช่วยเหลือประชาชนจริง ควรรับภาระค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนตั้งแต่เริ่มมีมาตรการล็อกดาวน์จะเหมาะสมกว่า” นายกิตติกร กล่าว
นายกิตติกร กล่าวอีกว่า นอกจากนี้ควรมีการปฏิรูปพลังงานใหม่ทั้งระบบ เพราะหลังโควิด-19 ผ่านไป ปริมาณการใช้ไฟฟ้าจะเปลี่ยนไป ปัจจุบันปริมาณไฟฟ้าในประเทศไทยมีเป็นจำนวนมาก มีการสำรองไฟฟ้าสูงถึงร้อยละ 30 จากเดิมที่ ร้อยละ 10 ซึ่งสูงมาก ดังนั้น รัฐบาลควรที่จะงดปล่อยใบอนุญาตผลิตไฟฟ้าให้เอกชนในช่วง 3-5 ปีนี้ เพื่อรักษาระดับไฟสำรองของประเทศไม่ให้สูงเกินไป
“รัฐต้องเร่งหาแหล่งพลังงานทดแทนใหม่เพื่อลดภาระงบประมาณในการซื้อไฟฟ้า ไม่ว่าจะเป็นพลังงานลม พลังงานน้ำ หรือพลังงานแสงอาทิตย์ ควรต้องเริ่มพัฒนาอย่างจริงจัง รวมทั้งปรับสูตรการผลิตพลังงานจากเดิมพึ่งพาก๊าซธรรมชาติ เมื่อปัจจุบันราคาน้ำมันลดลง ก็ควรที่จะหันมาเพิ่มปริมาณน้ำมันให้มากขึ้น ทั้งนี้เชื่อว่าหากมีการกำหนดนโยบายพลังงานใหม่จะช่วยให้ประชาชนใช้ไฟฟ้าในราคาที่ถูกลงอย่างแน่นอน” นายกิตติกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย