สิงคโปร์ 28 เม.ย.- ที่ปรึกษาด้านสุขภาพของรัฐบาลสิงคโปร์ชี้ว่า การที่กระทรวงสาธารณสุขไม่สามารถตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนากับแรงงานต่างชาติตามหอพักแออัดได้หมดทุกคน แต่แยกผู้มีอาการป่วยออกไปก่อน อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ทางการแจ้งยอดผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโควิด-19 ล่าช้า
สิงคโปร์มีประชากร 5.7 ล้านคน พบผู้ป่วยโควิด-19 แล้วเกือบ 15,000 คน เสียชีวิต 14 คน เพราะมีการระบาดในกลุ่มแรงงานต่างชาติตามหอพักแออัดที่มีคนอาศัยรวมกันมากกว่า 300,000 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงานเอเชียใต้ เดล ฟิชเชอร์ ประธานคณะกรรมการควบคุมและป้องกันโรคติดเชื้อแห่งชาติของสิงคโปร์ให้สัมภาษณ์สถานีโทรทัศน์แชนเนิลนิวส์เอเชียเมื่อวันอาทิตย์ว่า เจ้าหน้าที่ยุติการตรวจหาเชื้อกับแรงงานมีอาการบางรายตามหอพัก ทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้ไม่ถูกรวมไว้ในตัวเลขของทางการทันที ทั้งที่ควรนำผู้ได้รับการวินิจฉัยทางคลินิกรวมไว้ในตัวเลขผู้ป่วยด้วย เพราะจะทำให้ตัวเลขเป็นปัจจุบัน เขามองว่าความซื่อสัตย์เป็นเรื่องสำคัญรวมทั้งในกรณีนี้
ด้านกระทรวงสาธารณสุขแถลงเมื่อวานนี้ว่า เนื่องจากต้องจัดลำดับความสำคัญจึงไม่สามารถตรวจหาเชื้อกับแรงงานทุกคนได้ในคราวเดียว แต่หากมีรายงานแรงงานป่วยหรือติดเชื้อทางเดินหายใจเฉียบพลัน เจ้าหน้าที่จะแยกตัวออกจากคนอื่นทันทีแล้วให้การดูแลที่จำเป็น กระทรวงสาธารณสุขไม่ได้เผยว่า แรงงานที่ถูกแยกตัวได้รับการตรวจหาเชื้อหรือไม่ แต่ระบุว่าผู้ที่ได้รับการยืนยันว่าเป็นโควิด-19 จะถูกรวมไว้ในตัวเลขผู้ป่วยรายวันของทางการ และว่าการที่ทางการตรวจหาเชื้ออย่างเข้มข้นทำให้พบผู้ป่วยมากกว่าหลายประเทศ อัตราการตรวจอยู่ที่ 2,100 คนต่อ 100,000 คน เทียบกับสหรัฐที่ 1,600 ต่อ 100,000 คน และอังกฤษที่ 1,000 ต่อ 100,000 คน.- สำนักข่าวไทย