กรุงเทพฯ 25 เม.ย.- กว่า 2 เดือนที่มีการใช้มาตรการเข้มข้นควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งข้อมูลตัวเลขสถิติต่างๆ ที่ออกมาเห็นชัดว่าได้ผล สิ่งที่จะตามคือการคลายล็อกมาตรการทางด้านเศรษฐกิจ ให้ธุรกิจสามารถดำเนินการได้ แนวทางหนึ่งที่ออกมามีการใช้เกณฑ์ความเสี่ยงของจังหวัดและธุรกิจมาพิจารณาประกอบ ติดตามจากรายงาน
มาตรการคุมเข้มป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด ที่ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนมีนาคม ส่งผลให้ปัจจุบันสถานการณ์ในประเทศดีขึ้นต่อเนื่อง เทียบจากอัตราผู้ป่วยใหม่กับผู้ป่วยที่รักษาหาย ล่าสุด มีผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ภาคธุรกิจและผู้ประกอบการร้านค้าต่างๆ เริ่มมีการส่งสัญญาณพูดถึงมาตรการคลายล็อก โดยเฉพาะสถานบริการและร้านค้าบางประเภท แนวทางที่เสนอมีทั้งการพิจารณาแบบแบ่งเกณฑ์จังหวัดและแบ่งประเภทของธุรกิจ
เช่นกรณีของจังหวัด จัดออกเป็น 3 กลุ่ม ไล่เรียงตั้งแต่จังหวัดที่มีความเสี่ยงของการระบาดต่ำกลุ่มแรก ไม่พบผู้ป่วยในช่วง 14 วัน กลุ่มที่ 2 พบผู้ป่วย แต่สามารถจำกัดวง หาความเชื่อมโยงได้ และกลุ่มสุดท้ายมีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่องในพื้นที่
ส่วนกลุ่มธุรกิจที่จะเปิดจัดได้ตามกลุ่มความเสี่ยงเช่นกัน เกณฑ์ที่ใช้วัดพิจารณาจากโอกาสของการแพร่ระบาด เช่น ความหนาแน่นของผู้ใช้บริการ ที่ต้องห่างกันอย่างน้อย 1 ตารางเมตร มีพื้นที่รอคิว ระยะเวลาอยู่ในสถานประกอบการต้องไม่นานเกินไป สภาพอากาศต้องถ่ายเท เป็นที่โล่ง มีการใช้เทคโนโลยีช่วยลดความแออัด และมีการวัดอุณหภูมิ ใส่หน้ากากอนามัย ทำความสะอาดจุดสัมผัสให้ได้มาตรฐาน ซึ่งก็แบ่งได้เป็น 3 กลุ่มเช่นกัน
หากนำข้อมูลของทั้ง 2 ส่วนมาพิจารณาประกอบกันเป็นตาราง จะทำให้จำแนกการประเมินธุรกิจที่จะเปิดได้ 3 รูปแบบ คือ เปิดได้ตามมาตรการป้องกัน และเปิดดำเนินการได้ด้วยความระมัดระวังอย่างร้านอาหาร ร้านเสริมสวย ตัดผม หรือร้านขายของทั่วไป และตลาด หรือสถานบริการที่สามารถนัดคิวจองออนไลน์ได้ และไม่สามารถเปิดให้บริการได้ คือ สถานบริการที่มีความเสี่ยงสูงจะยังคงปิดอยู่เช่นสถานบันเทิง ผับ บาร์ สนามพนันอย่างสนามมวย หรือสนามกีฬาที่ต้องมีผู้ชมจำนวนมาก เว้นแต่มีวิธีปิดเฉพาะ
หากเป็นไปตามมาตรการนี้ธุรกิจที่จะเปิดทุกแห่งต้องมีระบบติดตามตัว มีการลงทะเบียนบุคคลและสถานประกอบการ ที่จะต้องติดตามตัวได้ ในส่วนนี้จะต้องใช้แอปพลิเคชันให้ง่ายต่อการเข้าถึงในกรณีที่พบการติดเชื้อ เบื้องต้นอาจทดลองให้เปิดก่อนบ้างจังหวัดมี 3-4 จังหวัดนำร่อง และเมื่อมีการดำเนินการแล้วในห่วงเวลาหนึ่ง เช่น 1 -2 สัปดาห์หรือ 1 เดือน จึงพิจารณาปรับปรุงให้เหมาะสม
นักระบาดวิทยามองว่า ในสถานการณ์โควิดปัจจุบันที่ประเทศไทยสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ การผ่อนปรนในบางมาตรการก็สามารถดำเนินการได้ และข้อกังวลเรื่องการที่จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดซ้ำยังคงไม่น่าวิตก เพราะหากจะคลายล็อกภาคธุรกิจก็จะต้องมีมาตรการ ขั้นตอน หรือข้อบังคับมารองรับป้องกันไว้อยู่แล้ว
ส่วนการคลายล็อก สามารถพิจารณาในคราวเดียวได้ โดยไม่ต้องนำเกณฑ์ของจังหวัดมาประกอบ เนื่องจากธุรกิจแต่ละประเภทมีการตรการป้องกันที่แตกต่างกันตามสภาพของการใช้บริการ แต่การป้องกันพื้นฐานเป็นเรื่องที่ทุกแห่งจะต้องทำอยู่แล้ว
การคลายล็อกให้ผู้ประกอบการภาคธุรกิจกลับมาเปิดได้อีกครั้ง ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เป็นเรื่องที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะพิจารณาให้เกิดความเหมาะสมรอบคอบที่สุด โดยคำนึงถึงผลกระทบภาคประชาชน ภาคธุรกิจ และการควบคุมโรค ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้จะมีการนำเสนอต่อรัฐบาลในสัปดาห์หน้า และคาดว่าจะมีความชัดเจนออกมา.-สำนักข่าวไทย