“สรวงศ์” ย้ำเป้า สส.เกิน 200 คนเป็นไอเดีย “แพทองธาร”

ทำเนียบ 19 พ.ย.-“สรวงศ์” เลขาฯ เพื่อไทย ย้ำเป้า สส.เกิน 200 คนเป็นไอเดีย “แพทองธาร” ตั้งแต่แรกที่หวังไต่กลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ยันไม่กังวลถูกร้อง “ทักษิณ” ครอบงำ ชี้เป็นเรื่องผู้สมัครตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียง ไม่เกี่ยวเพื่อไทย วอนหยุดวาทกรรมครอบงำได้แล้ว

นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยหาเสียงตั้งเป้าเลือกตั้งสมัยหน้าได้ สส.เกิน 200 คนว่า เป็นการคาดคะเนของผู้มีประสบการณ์ ส่วนพรรคก็ต้องทำให้ดีที่สุด แต่ตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่ เป้าหมายของเราต้องการให้ได้เกินครึ่งของ สส.ในสภา เพื่อพยายามไต่กลับทำให้พรรคกลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งให้ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นเป้าหมายของพรรคเพื่อไทย


ส่วนการจะได้ สส.ตามเป้า ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่อุดรธานี ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า จริงๆ ความจริงแล้วต้องแยกออกจาก ระหว่างการเมืองใหญ่กับการเมืองระดับท้องถิ่น ซึ่งจะสังเกตได้ว่าคนที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจในการเลือกคนที่จะมาดูแล ประชาชน ถือว่า ถือว่ามีความสำคัญมาก

สำหรับสิ่งที่นายทักษิณ เหมือนเป็นการพูดนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงก็รับลูก จะถูกมองว่า เป็นการครอบงำหรือไม่นั้น นายสรวงศ์กล่าวว่าสิ่งที่นายทักษิณพูด เป็นสิ่งที่ทางกระทรวงต่างๆ ได้ดำเนินการอยู่แล้ว และเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องของการครอบงำ ควรจะเลือกพูดได้แล้ว เพราะจริง ๆ แล้วไม่มีอะไรที่จะมาครอบงำทำให้สมาชิกพรรคการเมืองไม่มีอิสระเลย การให้ข้อสังเกตการให้คำแนะนำ หรือแม้กระทั่งการพูดถึงนโยบายต่างๆ นายทักษิณก็พูดชัดเจน ว่า นายกรัฐมนตรีมาปรึกษาและเล่าให้ฟัง ในนามที่เป็นหัวหน้าพรรคด้วย ดังนั้นคนแยกประเด็นและต้องเลิกพูดถึงการครอบงำได้แล้ว และตนคิดว่าเป็นวาทกรรมที่ ไม่สร้างสรรค์อะไรเลย ไม่อย่างนั้น สิ่งที่พรรคการเมืองอื่นหรือคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้วออกมาพูดก็คือเป็นการครอบงำหมด ดังนั้นเราควรต้องก้าวข้ามนายทักษิณได้แล้ว ตอนนี้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยชื่อแพทองธาร ชินวัตร ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือสิ่งที่นายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธารพูด และมั่นใจว่าประชาชนเข้าใจเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว จึงขอให้สื่อมวลชนมุ่งในเรื่องของการทำงานดีกว่า
เมื่อถามย้ำว่าในการประชุม กรรมการบริหารพรรคในวันนี้จะย้ำกับสมาชิก เรื่องเป้าหมาย 200 ที่นั่งหรือไม่ นายสรวงศ์ระบุว่าความจริงแล้ว หัวหน้าพรรคได้ย้ำกับ สส. อยู่แล้วว่าให้ส.ส.ทุกคนลงพื้นที่ ซึ่งจุดแข็งของพรรคเพื่อไทยคือการลงพื้นที่ การอยู่กับประชาชน และสิ่งที่หัวหน้าพรรคย้ำมาตลอดว่าจะต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่น และให้เรากลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งให้ได้


ส่วนการที่นายทักษิณ ไปช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดหาเสียงจะยิ่งเป็นการ ตอกย้ำ ว่าครอบงำหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นวิจารณญาณของผู้สมัคร ที่จะตั้งผู้ช่วยหาเสียง และผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นคนเชิญ ไม่เกี่ยวกับพรรค แต่ในส่วนของพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค หาก มีโอกาส ก็ยินดีไปช่วยอยู่แล้ว

เมื่อถามว่าการที่บรรดานักร้องเรียนไปร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบหลังจากที่นายทักษิณปราศรัยเปรียบนักร้องเรียนเป็นสุนัขนั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่ายังไม่เห็นว่ามีคำไหนเลย และหากผู้ตรงๆ ก็เป็นการเป็นการคิดไปเอง ใครอยากรับก็รับไป ไม่เป็นไร เอาที่สบายใจ ซึ่งไม่กังวลตรงนี้ เพราะ การบราศรัยต่างๆ ไม่ได้มีการเอ่ยชื่อคน และคิดว่าประชาชนคงเอือมระอากันแล้ว และคิดว่าการทำอะไรต่างต่าง ก็มักจะมีการร้องเรียนแบบนี้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหา

ส่วนเมื่อมีเรื่องนายทักษิณแล้วคนจ้องจับผิด หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่าทั้งนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะมีคนจ้อง อย่างนี้อยู่แล้ว เป็นสิ่งที่เรา ไม่อยากเรียกว่าเคยชิน แต่ขอมุ่งหน้าในการทำงานดีกว่า ให้ผลงานเป็นตัวตัดสิน อยาก และทุกสิ่งทุกอย่างมองว่าขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน สิ่งที่เรามีอยู่ตอนนี้คือ การมีเวลาที่จะพิสูจน์ตัวเอง และพิสูจน์ผลงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ย้ำกับรัฐมนตรีทุกคนให้ทำงานเต็มที่ และทุกสิ่งทุกอย่างพิสูจน์ด้วยผลงาน


นายสรวงศ์ ย้ำว่า สิ่งที่นายทักษิณพูดบนเวที 70-80% เป็นการพูดถึงผลงานในอดีต ผู้ทั้ง พรรคไทยรักใคร พรรคพลังประชาชน ประชาชน และรัฐบาลเพื่อไทย แล้วก็พูดถึงทนายกรัฐมนตรี ซึ่ง จริงๆแล้วก็เป็นการปราศรัยปกติ ก็จำเป็นต้องมีโดนคนนั้นคนนี้บ้าง แต่งงว่า เหตุใดไหม้พุ่งเป้าไปที่ตัวสมัครแต่ พุ่งเป้าหมายที่ตัวนายทักษิณ แต่ก็ถือว่าเป็นสีสันทางการเมือง และเป็นสิทธฺของพี่น้องประชาชนจะเลือก

ทั้งนี้ย้ำว่า การที่นายทักษิณไปปราศรัยเป็นเรื่องที่ผู้สมัครเชิญไปในนามส่วนตัว หรือตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียง แต่เจ้าตัวต้องยินยอม เสียงและยังไม่ทราบว่านายทักษิณมีกำหนดการจะไปช่วยหาเสียงในพื้นที่ไหนอีก เพราะไม่ใช่เรื่องของพรรค ไปเรื่องของตัวผู้สมัคร ในการตั้งผู้ช่วยหาเสียง

ส่วนที่ในการปราศรัยของนายทักษิณ มีสมาชิกจากพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคไปร่วม บนเวทีปราศรัยด้วยนั้น นายสรวงศ์กล่าวว่า ความจริงแล้วพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีมติส่ง ผู้สมัคร รับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ แต่ว่าตัวผู้สมัครเอาจจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด หรือว่าอาจจะเป็นญาติพี่น้อง หรืออาจจะเป็นพรรคเพื่อไทยทั้งคู่ หรือเป็น พวกเดียวกันหมด ซึ่งการจะส่งใคร จะต้องมีมติจากพรรคเป็นเอกฉันท์ หรือเป็นมติจากกรรมการบริหารพรรค เท่านั้น ขณะนี้พรรคส่งผู้สมัครเฉพาะที่มีการเปิดตัวไปแล้ว ยังไม่มีเพิ่มขึ้น.-312.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิด “เขากระโดง”

ดีเอสไอ 3 ก.ย.-รฟท.ประสาน DSI เลื่อนแจ้งความเอาผิดเรื่องเขากระโดงไม่มีกำหนด ความคืบหน้าการสืบสวนเรื่องร้องเรียนการครอบครองและการออกเอกสารสิทธิในที่ดินบริเวณเขากระโดงจังหวัดบุรีรัมย์ อันอาจเป็นที่ดินของรัฐ ซึ่งอธิบดีดีเอสไอมีคำสั่งสืบสวน และดีเอสไอได้ดำเนินการสอบสวนปากคำพยานบุคคลที่เกี่ยวข้อง ตรวจสอบรวบรวมพยานหลักฐานพบกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่รฟท.เกี่ยวข้อง ซึ่งการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ติดต่อจะมอบให้ฝ่ายกฎหมายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ เพื่อขอให้ดำเนินการสอบสวนตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ พ.ศ. 2547 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง พร้อมมอบเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องวันนี้ เวลา 14.00น. ล่าสุดพ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผอ.กองคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย รฟท.ได้ประสานกลับมายังตน ขอเลื่อนการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ออกไปก่อน อย่างไม่มีกำหนด กรณีนี้ พนักงานสอบสวนดีเอสไอตรวจสอบพบ กลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟเข้าไปเกี่ยวข้อง และการรถไฟฯ เป็นผู้เสียหายจึงประสาน รฟท.ไปให้มาแจ้งความดำเนินคดีอาญากับกลุ่มบุคคลและเจ้าหน้าที่การรถไฟแห่งประเทศไทย และเจ้าหน้าที่รัฐอื่นในการเข้ายึดถือครอบครองที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณพื้นที่เขากระโดง ต.เสม็ด และ ต.อิสาณ อ.เมืองบุรีรัมย์ จ.บุรีรัมย์ หากรฟท.ไม่มาแจ้งร้องทุกข์ ก็เข้าข่ายละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ดีเอสไอจะทำหนังสือแจ้งรฟท.อีกครั้งให้มาแจ้งความร้องทุกข์ หากยังไม่มาอีก ก็จะประชุมพนักงานสอบสวน ดำเนินการทางกฎหมายกับผู้บริหารการรถไฟฯ เรียกสอบบุคคลที่เกี่ยวข้องฐานเป็นผู้สนับสนุนเพื่อดำเนินการทางกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ติดป้ายให้ ‘ชาวกัมพูชา’ รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน

สระแก้ว 4 ก.ย.-ผู้ว่าฯ สระแก้ว สั่งติดป้ายให้ชาวกัมพูชา รื้อถอน-ย้ายออก พื้นที่บ้านหนองจาน ในส่วนของไทย หากฝ่าฝืนเอาผิด พ.ร.บ.คนเข้าเมือง-ป่าไม้ โทษปรับ-จำคุก เจ้าหน้าที่หลายหน่วยงาน จ.สระแก้ว ติดตั้งประกาศบังคับใช้กฎหมายชาวกัมพูชาที่บุกรุกพื้นที่ในราชอาณาจักรไทย บริเวณบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว โดยป้ายมี 3 ภาษา ไทย-กัมพูชา-อังกฤษ พร้อมแผนที่ ระบุว่า “ประกาศให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกถือครองที่ดินและอยู่อาศัยทำกินในราชอาณาจักรไทย เป็นการกระทำความผิดในราชอาณาจักรไทย ตามแผนที่แนบท้ายกรอบสีฟ้า หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทย หากเพิกเฉยไม่ดำเนินการจะดำเนินคดีและต้องรับโทษในราชอาณาจักรไทยตามกฎหมายดังนี้ 1.พระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 มาตรา 11 มาตรา 62 และมาตรา 81 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี และปรับไม่เกิน 20,000 บาท 2.พระราชบัญญัติป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54 และมาตรา 72 ตรี ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 […]

เร่งล่าคนร้ายฆ่าหญิงสาวยัดกระเป๋าเดินทางถ่วงน้ำ

ชลบุรี 3 ก.ย. – คดีสังหารโหดหญิงปริศนายัดกระเป๋าเดินทาง โยนทิ้งอ่างเก็บน้ำ จ.ชลบุรี ตำรวจเร่งหาเบาะแสล่าตัวคนร้าย พบลายนิ้วมือแฝงบนดัมเบลที่ใช้ถ่วงน้ำหนักกระเป๋า ตำรวจ สภ.ห้วยใหญ่ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำกระเป๋าเดินทางสีดำขนาดใหญ่ ซึ่งมีโซ่เหล็ก และกุญแจล็อกแน่นหนา ขึ้นมาตรวจสอบ หลังจากพบลอยอยู่ในอ่างเก็บน้ำคลองบางไผ่ ต.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ส่งกลิ่นเหม็นไปทั่วบริเวณ จากการตรวจสอบภายในกระเป๋า พบศพหญิงสาว อายุประมาณ 30 ปี ไม่ทราบสัญชาติ เปลือยท่อนบน นุ่งกางเกงขา 3 ส่วน สีครีม นอนขดตัวอยู่ในกระเป๋า พบร่องรอยเขียวช้ำบริเวณลำคอ กลางหน้าอก และดั้งจมูก คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 5 วัน โดยเจ้าหน้าที่ได้ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมถึงตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคลว่า ผู้ตายเป็นใคร มาจากไหน ส่วนบริเวณช่องใส่ของด้านหน้ากระเป๋า พบแผ่นดัมเบล 9 แผ่น (ขนาดน้ำหนัก 5 กก. จำนวน 1 แผ่น / 2.5 […]

แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา

3 ก.ย. – แห่แจ้งความเอาผิด “ภูมิธรรม” ปมยื่นทูลเกล้าฯ ยุบสภา ชี้ผิดมาตรา 112 และมาตรา 157 สะพัด! ตีกลับ พ.ร.ฎ.ยุบสภา เหตุไม่เป็นไปตามระเบียบ-กฤษฎีกาแย้งไร้อำนาจ ด้าน “อนุทิน” บอกยังเป็นแค่ข่าว รอรัฐบาลแจงดีกว่า นายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหวทางการเมือง และนายสุรทิน พิจารณ์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปไตยใหม่ เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน บก.ปปป. เอาผิดนายภูมิธรรม เวชยชัย ในความผิดมาตรา 112 พร้อมเผยว่า การพยายามยื่นทูลเกล้าฯ พ.ร.ฎ.ยุบสภา ถือเป็นการกระทำที่มิบังควร เนื่องจากไม่มีอำนาจหน้าที่หรือสิทธิที่สามารถทำได้ นายไทกร ระบุว่า ได้รับข้อมูลว่านายภูมิธรรม นำเรื่องพระราชกฤษฎีกายุบสภาไปส่งยังสำนักพระราชวังแล้ว หนังสือฉบับนั้นได้ถูกส่งกลับมาที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี แต่พรรคเพื่อไทยและนายภูมิธรรมยังไม่ยอมที่จะเคารพต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ทั้งๆ ที่รู้ว่าตนเองไม่มีสิทธิในการที่จะใช้อำนาจตามรัฐธรรมนูญเพื่อที่จะยุบสภา กลับมีความพยายามที่จะเรียกประชุมคณะกรรมการกฤษฎีกาคณะใหญ่ โดยมีการทาบทามให้ ดร.วิษณุ เครืองาม และคณะ มาทำหน้าที่ เพื่อที่จะตราพระราชกฤษฎีกายุบสภาขึ้นอีกฉบับใหม่ในวันพรุ่งนี้ เพื่อที่จะนำส่งสำนักพระราชวังอีกครั้ง ถือว่าการกระทำที่ไม่บังควร “ศุภชัย” […]