ทำเนียบ 19 พ.ย.-“สรวงศ์” เลขาฯ เพื่อไทย ย้ำเป้า สส.เกิน 200 คนเป็นไอเดีย “แพทองธาร” ตั้งแต่แรกที่หวังไต่กลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่ง ยันไม่กังวลถูกร้อง “ทักษิณ” ครอบงำ ชี้เป็นเรื่องผู้สมัครตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียง ไม่เกี่ยวเพื่อไทย วอนหยุดวาทกรรมครอบงำได้แล้ว
นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ปราศรัยหาเสียงตั้งเป้าเลือกตั้งสมัยหน้าได้ สส.เกิน 200 คนว่า เป็นการคาดคะเนของผู้มีประสบการณ์ ส่วนพรรคก็ต้องทำให้ดีที่สุด แต่ตัวเลขจะเป็นเท่าไหร่ เป้าหมายของเราต้องการให้ได้เกินครึ่งของ สส.ในสภา เพื่อพยายามไต่กลับทำให้พรรคกลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งให้ได้ ซึ่งตรงนี้เป็นเป้าหมายของพรรคเพื่อไทย
ส่วนการจะได้ สส.ตามเป้า ขึ้นอยู่กับการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่อุดรธานี ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า จริงๆ ความจริงแล้วต้องแยกออกจาก ระหว่างการเมืองใหญ่กับการเมืองระดับท้องถิ่น ซึ่งจะสังเกตได้ว่าคนที่พี่น้องประชาชนให้ความสนใจในการเลือกคนที่จะมาดูแล ประชาชน ถือว่า ถือว่ามีความสำคัญมาก
สำหรับสิ่งที่นายทักษิณ เหมือนเป็นการพูดนโยบายของรัฐบาล และกระทรวงก็รับลูก จะถูกมองว่า เป็นการครอบงำหรือไม่นั้น นายสรวงศ์กล่าวว่าสิ่งที่นายทักษิณพูด เป็นสิ่งที่ทางกระทรวงต่างๆ ได้ดำเนินการอยู่แล้ว และเป็นข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี ซึ่งเรื่องของการครอบงำ ควรจะเลือกพูดได้แล้ว เพราะจริง ๆ แล้วไม่มีอะไรที่จะมาครอบงำทำให้สมาชิกพรรคการเมืองไม่มีอิสระเลย การให้ข้อสังเกตการให้คำแนะนำ หรือแม้กระทั่งการพูดถึงนโยบายต่างๆ นายทักษิณก็พูดชัดเจน ว่า นายกรัฐมนตรีมาปรึกษาและเล่าให้ฟัง ในนามที่เป็นหัวหน้าพรรคด้วย ดังนั้นคนแยกประเด็นและต้องเลิกพูดถึงการครอบงำได้แล้ว และตนคิดว่าเป็นวาทกรรมที่ ไม่สร้างสรรค์อะไรเลย ไม่อย่างนั้น สิ่งที่พรรคการเมืองอื่นหรือคนที่ถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไปแล้วออกมาพูดก็คือเป็นการครอบงำหมด ดังนั้นเราควรต้องก้าวข้ามนายทักษิณได้แล้ว ตอนนี้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคเพื่อไทยชื่อแพทองธาร ชินวัตร ดังนั้นสิ่งสำคัญที่สุด คือสิ่งที่นายกรัฐมนตรีที่ชื่อแพทองธารพูด และมั่นใจว่าประชาชนเข้าใจเรื่องนี้ดีอยู่แล้ว จึงขอให้สื่อมวลชนมุ่งในเรื่องของการทำงานดีกว่า
เมื่อถามย้ำว่าในการประชุม กรรมการบริหารพรรคในวันนี้จะย้ำกับสมาชิก เรื่องเป้าหมาย 200 ที่นั่งหรือไม่ นายสรวงศ์ระบุว่าความจริงแล้ว หัวหน้าพรรคได้ย้ำกับ สส. อยู่แล้วว่าให้ส.ส.ทุกคนลงพื้นที่ ซึ่งจุดแข็งของพรรคเพื่อไทยคือการลงพื้นที่ การอยู่กับประชาชน และสิ่งที่หัวหน้าพรรคย้ำมาตลอดว่าจะต้องทำให้ประชาชนเชื่อมั่น และให้เรากลับมาเป็นพรรคอันดับหนึ่งให้ได้
ส่วนการที่นายทักษิณ ไปช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัดหาเสียงจะยิ่งเป็นการ ตอกย้ำ ว่าครอบงำหรือไม่ นายสรวงศ์ กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นวิจารณญาณของผู้สมัคร ที่จะตั้งผู้ช่วยหาเสียง และผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นคนเชิญ ไม่เกี่ยวกับพรรค แต่ในส่วนของพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค หาก มีโอกาส ก็ยินดีไปช่วยอยู่แล้ว
เมื่อถามว่าการที่บรรดานักร้องเรียนไปร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้ตรวจสอบหลังจากที่นายทักษิณปราศรัยเปรียบนักร้องเรียนเป็นสุนัขนั้น นายสรวงศ์ กล่าวว่ายังไม่เห็นว่ามีคำไหนเลย และหากผู้ตรงๆ ก็เป็นการเป็นการคิดไปเอง ใครอยากรับก็รับไป ไม่เป็นไร เอาที่สบายใจ ซึ่งไม่กังวลตรงนี้ เพราะ การบราศรัยต่างๆ ไม่ได้มีการเอ่ยชื่อคน และคิดว่าประชาชนคงเอือมระอากันแล้ว และคิดว่าการทำอะไรต่างต่าง ก็มักจะมีการร้องเรียนแบบนี้อยู่แล้ว ไม่มีปัญหา
ส่วนเมื่อมีเรื่องนายทักษิณแล้วคนจ้องจับผิด หรือไม่ นายสรวงศ์กล่าวว่าทั้งนายทักษิณและพรรคเพื่อไทยไม่ว่าจะทำอะไร ก็จะมีคนจ้อง อย่างนี้อยู่แล้ว เป็นสิ่งที่เรา ไม่อยากเรียกว่าเคยชิน แต่ขอมุ่งหน้าในการทำงานดีกว่า ให้ผลงานเป็นตัวตัดสิน อยาก และทุกสิ่งทุกอย่างมองว่าขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน สิ่งที่เรามีอยู่ตอนนี้คือ การมีเวลาที่จะพิสูจน์ตัวเอง และพิสูจน์ผลงาน ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ย้ำกับรัฐมนตรีทุกคนให้ทำงานเต็มที่ และทุกสิ่งทุกอย่างพิสูจน์ด้วยผลงาน
นายสรวงศ์ ย้ำว่า สิ่งที่นายทักษิณพูดบนเวที 70-80% เป็นการพูดถึงผลงานในอดีต ผู้ทั้ง พรรคไทยรักใคร พรรคพลังประชาชน ประชาชน และรัฐบาลเพื่อไทย แล้วก็พูดถึงทนายกรัฐมนตรี ซึ่ง จริงๆแล้วก็เป็นการปราศรัยปกติ ก็จำเป็นต้องมีโดนคนนั้นคนนี้บ้าง แต่งงว่า เหตุใดไหม้พุ่งเป้าไปที่ตัวสมัครแต่ พุ่งเป้าหมายที่ตัวนายทักษิณ แต่ก็ถือว่าเป็นสีสันทางการเมือง และเป็นสิทธฺของพี่น้องประชาชนจะเลือก
ทั้งนี้ย้ำว่า การที่นายทักษิณไปปราศรัยเป็นเรื่องที่ผู้สมัครเชิญไปในนามส่วนตัว หรือตั้งเป็นผู้ช่วยหาเสียง แต่เจ้าตัวต้องยินยอม เสียงและยังไม่ทราบว่านายทักษิณมีกำหนดการจะไปช่วยหาเสียงในพื้นที่ไหนอีก เพราะไม่ใช่เรื่องของพรรค ไปเรื่องของตัวผู้สมัคร ในการตั้งผู้ช่วยหาเสียง
ส่วนที่ในการปราศรัยของนายทักษิณ มีสมาชิกจากพรรคเพื่อไทย และแกนนำพรรคไปร่วม บนเวทีปราศรัยด้วยนั้น นายสรวงศ์กล่าวว่า ความจริงแล้วพรรคเพื่อไทยไม่ได้มีมติส่ง ผู้สมัคร รับเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสุรินทร์ แต่ว่าตัวผู้สมัครเอาจจะมีความสัมพันธ์ใกล้ชิด หรือว่าอาจจะเป็นญาติพี่น้อง หรืออาจจะเป็นพรรคเพื่อไทยทั้งคู่ หรือเป็น พวกเดียวกันหมด ซึ่งการจะส่งใคร จะต้องมีมติจากพรรคเป็นเอกฉันท์ หรือเป็นมติจากกรรมการบริหารพรรค เท่านั้น ขณะนี้พรรคส่งผู้สมัครเฉพาะที่มีการเปิดตัวไปแล้ว ยังไม่มีเพิ่มขึ้น.-312.-สำนักข่าวไทย