ภูมิภาค 20 เม.ย. -ผลกระทบโควิด-19 ทำปลานิลขายไม่ออก ตกค้างในกระชังกว่า 30 ตัน ประมงบึงกาฬ และพาณิชย์จังหวัดรุดหาทางช่วย ส่วนสองแม่ลูกร้านนวดเมืองเชียงราย พลิกวิกฤติเป็นโอกาส หันมาขายทุเรียนสร้างรายได้ ขณะที่ลิ้นจี่ ผลไม้ขึ้นชื่อ จ.พะเยา มีลิ้นจี่ขาย แต่ไร้คนซื้อ
นายวรพงษ์ สาระรัตน์ ประมงจังหวัดบึงกาฬ และนางพิรุณวรรณน์ จงใจภักดิ์ พาณิชย์จังหวัดบึงกาฬ พร้อมเจ้าหน้าที่ประมงจังหวัดและพาณิชย์จังหวัดลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การเลี้ยง และขายปลานิลในกระชังแม่น้ำโขงในพื้นที่กระชังปลาของนางสุมาลี เวชกามา บ้านท่าโพธิ์ ต.บึงกาฬ และที่โอโม่ฟาร์มปลานิล อ.เมืองบึงกาฬ หลังได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ปลานิลขายไม่ออกตกค้างในกระชังกว่า 30 ตัน แนวทางที่ช่วยเหลือ จะช่วยประชาสัมพันธ์การขายผ่านโซเซียลของสำนักงานพาณิชย์ รวมทั้งกลุ่มผู้ประกอบการที่ขายเนื้อปลา เพื่อให้มาซื้อที่แหล่งผลิต และจะทำหนังสือไปถึงสำนักงานพาณิชย์จังหวัดอื่นๆ ในภาคอีสาน ให้ประสานผู้ประกอบการรายใหญ่ ให้มาซื้อที่แหล่งผลิตเอง ราคาขายส่งกิโลกรัมละ 65-70 บาท สภาวะเช่นนี้ อยากให้พ่อค้าแม่ค้าทั่วประเทศที่ซื้อปลานิลไปขายและประชาชนทั่วไปมาซื้อปลานิลคุณภาพจากกระชัง
สองแม่ลูกร้านนวด หันมาขายทุเรียน
ร้านนวดแผนโบราณและสปา ใน ต.บ้านดู่ อ.เมือง จ.เชียงราย หันมาใช้วิกฤติเป็นโอกาส หาอาชีพสร้างรายได้ เพราะต้องรับภาระพนักงานในร้านอีกหลายชีวิต น้องพิมพ์ หรือ น.ส.จิราพรรณ ทิพย์แก้ว อายุ 22 ปี และคุณแม่ ไปรับทุเรียนจากจันทบุรี มาตั้งร้านชั่วคราวขายที่ริมถนนสนามบินใกล้ๆ ร้านนวด ขายหน้าร้านและขายเฉพาะเนื้อส่งขายตามออร์เดอร์ถึงบ้านลูกค้า ทุเรียนหมอนทอง ถ้าเป็นทุเรียนสดทั้งลูกขายกิโลกรัม 120 บาท และหากขายเฉพาะเนื้อทุเรียนที่ปอกใส่กล่อง ขายกิโลกรัมละ 400 บาท
โควิดกระทบตลาดลิ้นจี่ ผลไม้ขึ้นชื่อเมืองพะเยา
ผลไม้ขึ้นชื่อ จ.พะเยา อย่างลิ้นจี่ ในเขต อ.แม่ใจ จ.พะเยา กำลังให้ผลผลิตออกสู่ผู้บริโภค แต่เมื่อมาเจอโควิด-19 ระบาด ทำให้บรรดาพ่อค้าแม่ค้าไม่สามารถเข้ามารับซื้อได้ สร้างผลกระทบอย่างมาก จนเกิดปัญหามีลิ้นจี่ขาย แต่ไม่มีคนซื้อ ชาวสวนลิ้นจี่วอนรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยเหลือ เร่งระบายผลผลิตลิ้นจี่ที่กำลังจะออกสู่ท้องตลาดตั้งแต่ช่วงนี้เป็นต้นไปจนถึงเดือนพฤษภาคม. – สำนักข่าวไทย