14 เม.ย.- แม้หลายประเทศที่เผชิญการระบาดของโรคโควิด-19 รุนแรง เริ่มมียอดผู้ติดเชื้อและผู้เสียชีวิต เพิ่มในจำนวนคงที่หรือลดลง เช่น สหรัฐ และอิตาลี แต่จำเป็นต้องดำเนินมาตรการควบคุมอย่างเข้มงวดต่อ โดย WHO ขอให้ประเทศต่างๆ ยกเลิกล็อกดาวน์แบบค่อยเป็นค่อยไป
สหรัฐมีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 เมื่อวานนี้ 1,525 คน และมีผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 2,400 คน ทำให้ขณะนี้มีผู้เสียชีวิตสะสม 23,600 คน และมีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 580,000 คน นับเป็นวันที่ 2 ติดต่อกันที่ยอดผู้เสียชีวิตในสหรัฐแทบไม่เปลี่ยนแปลง ผู้ว่าการรัฐ 9 รัฐ จึงหารือแผนที่จะค่อยๆ กลับมาเปิดเศรษฐกิจในรัฐของตนเองอีกครั้ง แต่ก็ถูกประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แย้งว่าการตัดสินใจเรื่องนี้เป็นอำนาจเด็ดขาดของประธานาธิบดี
อิตาลีก็มีจำนวนผู้ติดเชื้อลดลง อยู่ที่ 3,153 คน จากเดิมเมื่อวันอาทิตย์ ซึ่งมี 4,092 คน แต่จำนวนคนเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจาก 431 คนเมื่อวันอาทิตย์เป็น 566 คน ขณะนี้อิตาลีมียอดติดเชื้อสะสมเกือบ 160,000 คน เป็นอันดับ 3 รองจากสหรัฐ และสเปน และมียอดผู้เสียชีวิตกว่า 20,000 คน ขณะที่จำนวนผู้ป่วยที่มีอาการวิกฤติลดลงติดต่อกัน 10 วันแล้ว วันนี้ อิตาลีจะเปิดร้านหนังสือและร้านซักเสื้อผ้าบางแห่ง เพื่อเป็นการทดลองก่อน หลังจากเมื่อวานนี้สเปนเริ่มให้คนงานในโรงงานและภาคการก่อสร้างกลับเข้าทำงาน
จีนเพิ่มมาตรการเข้มงวดชายแดนรัสเซีย
ส่วนที่จีน แม้จะควบคุมการระบาดได้เป็นส่วนใหญ่แล้ว แต่ก็กลัวจะกลับมาระบาดซ้ำ ล่าสุด เพิ่มมาตรการป้องกันเข้มงวดตามแนวพรมแดนระหว่างจีนกับรัสเซีย หลังพบว่าผู้ที่เดินทางกลับจากรัสเซียเป็นกลุ่มผู้ติดเชื้อจากต่างประเทศกลุ่มใหญ่สุด ดังนั้น ผู้ที่ข้ามแดนเข้ามาที่เมืองสุ่ยเฟินเหอ มณฑลเฮย์หลงเจียง จะต้องรับการทดสอบหาไวรัส ให้ข้อมูลเพื่อการติดตามโดยละเอียด และถูกกักตัวทุกคน นอกจากนี้ ยังตั้งหมายเลขโทรศัพท์ฮอตไลน์เพื่อให้ประชาชนแจ้งเบาะแสผู้ลักลอบเข้าเมืองและมีรางวัลมอบให้ด้วย
WHO ขอให้ยกเลิกล็อกดาวน์แบบค่อยเป็นค่อยไป
ขณะเดียวกัน นายทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ระบุว่า การระบาดของโรคโควิด-19 ในครั้งนี้ทั้งรวดเร็วมากกว่าและชะลอตัวลงช้ากว่ามาก ดังนั้น การยกเลิกมาตรการควบคุมเพื่อยับยั้งไวรัสที่ประเทศต่างๆ ใช้อยู่ ควรดำเนินการอย่างค่อยเป็นค่อยไป.-สำนักข่าวไทย