กมธ.สาธารณสุขฯ เสนอรัฐทบทวนแผนป้องกันโควิด-19

กรุงเทพฯ 11 เม.ย.-กมธ.สาธารณสุข วุฒิสภา เสนอทบทวนแผนป้องกันโควิด-19 ให้ความสำคัญตรวจหาเชื้อกลุ่มเสี่ยงหรือยังไม่พบอาการ และบูรณาการสนับสนุน สธ.


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คณะกรรมาธิการการสาธารณสุข วุฒิสภา ได้ประชุมผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (webex meeting) เมื่อวานนี้ (10เม.ย.) เพื่อพิจารณาเกี่ยวกับระบบการแพทย์และระบบสุขภาพของประชาชน โดยติดตามสถานการณ์ปัจจุบันและความรู้เกี่ยวกับโรคติดเชื้อโควิด-19 นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ คนที่หนึ่ง ระบุว่า มีการค้นพบองค์ความรู้ใหม่เกี่ยวกับโควิด-19 คือติดต่อจากคนสู่คนผู้ที่แพร่เชื้อได้ คือผู้ที่ติดเชื้อทุกคนทั้งที่มีอาการและไม่มีอาการ จึงควรใส่หน้ากากตลอดเวลา ส่วนระยะทางที่แพร่เชื้อ คือ 2 เมตร ดังนั้นต้องเพิ่มระยะห่างให้มากขึ้น ขณะที่อัตราผู้เสียชีวิตสูงขึ้นอยู่ที่ร้อยละ 5-6 และกลุ่มเสี่ยงที่จะเสียชีวิต หมายถึงทุกกลุ่มอายุ รวมถึงวัยหนุ่มสาวที่แข็งแรง

ด้าน นายณรงค์ สหเมธาพัฒน์ รองประธานคณะกรรมาธิการฯ คนที่สอง กล่าวว่า ได้รวบรวมข้อมูลและการทำงานในรอบ 3 เดือนที่ผ่านมาของบุคลากรผู้ปฏิบัติงาน ผู้ตรวจราชการ และผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงสาธารณสุข โดยจัดทำเป็นรายงานข้อเสนอและแนวทางการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ควรดำเนินการระหว่างเดือนเมษายน-มิถุนายน สำหรับเสนอต่อศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ โควิด-19 และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยมี 7 ข้อเสนอ คือ ทบทวนแผนการดำเนินการรายจังหวัดโดยเร่งด่วน และควรคำนึงผลกระทบด้านจิตใจของประชาชนและบุคลากรทางการแพทย์ ขณะที่การจัดสรรงบประมาณ แหล่งงบประมาณ และช่องทาง อำนาจการตัดสินใจของนายกรัฐมนตรีที่จะผ่านไปยังพื้นที่ ควรมีคณะทำงานด้านการแพทย์ทุกจังหวัด เพื่อให้เป็นเอกภาพเช่นเดียวกันในการกำหนดแผน การสื่อสารผ่านโซเชียลมีเดียให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน สร้างกลไกการติดตามประเมินผล ผ่านช่องทางผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข มาตรการทางเศรษฐกิจ การเยียวยาและการวางแผนเตรียมการเพื่อเข้าสู่ระยะที่ 2 ซึ่งหมายถึงการเปิดบริการต่าง ๆ ให้กลับสู่สภาวะปกติ ต้องให้ความสำคัญและดำเนินการอย่างเป็นขั้นตอน


นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ได้มีการตั้งข้อสังเกตและเสนอแนะ อาทิ ควรให้ความสำคัญกับการตรวจหาผู้ติดเชื้อ สำหรับกลุ่มคนที่มีความเสี่ยงหรือยังไม่พบอาการ และควรบูรณาการหน่วยงานและบุคลากรที่เกี่ยวข้องให้การสนับสนับสนุนการดำเนินการของบุคลากรด้านสาธารณสุขด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

voting ballot of Manchester, New Hampsher

เผยผลเอ็กซิตโพลเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ 2024                                               

รอยเตอร์เผยเอ็กซิตโพลการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐว่า 2 ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่งขันกันได้คะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิเลือกตั้งกลุ่มใดในสัดส่วนเท่าใด

รองเจ้าอาวาสวัดดัง เปย์สีกาไม่อั้น ลาสิกขาแล้ว

“รองเจ้าอาวาสวัดดัง” ลาสิกขาแล้วกลางดึก หลังปมฉาวเปย์สีกาไม่อั้น บอกไม่อยากให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวัดและคณะสงฆ์

อดีตครูจำใจสร้างห้องขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา

สลด! อดีตครูวัย 64 ปี จำใจจ้างช่างทำห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมคุมลูกติดยา-พนันออนไลน์ หลังส่งตัวบำบัดกว่า 10 ครั้ง แต่ออกมาก็เหมือนเดิม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ-กลาง-ตอ.ลมแรง ไทยตอนบนอุณหภูมิลด 1-2 องศาฯ

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบนมีอากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ กับมีลมแรงในภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล ลมแรง และมีฝนฟ้าคะนอง 10%

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

หาทางออก แม่ทำกรงขังลูกติดยาหวังรักษา

กรณีแม่วัย 64 ปี ที่บุรีรัมย์ สร้างห้องคล้ายกรงขังในบ้าน เตรียมรับลูกชายวัย 42 ปี กำลังจะกลับจากการบำบัด แต่ถูกตีความว่าเป็นการละเมิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่จึงลงพื้นที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมหาทางออกในการบำบัดรักษาที่ถูกต้อง

จับ 2 หนุ่มญี่ปุ่นอุ้มรีดเงิน ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ

สืบนครบาล จับชายชาวญี่ปุ่น 2 คน อุ้มเพื่อนร่วมชาติ ทำร้ายร่างกาย บังคับกินอุจจาระ เรียกเงิน 3 แสนบาท พบหนีคดีจากญี่ปุ่นมาขายกัญชาในประเทศไทย