กรุงเทพฯ4 เม.ย.-ธ.ก.ส. ออกมาตรการเพิ่มเติมช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาด
โรค COVID-19 โดยพักชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ย 3 เดือนโดยอัตโนมัติ
ให้กับลูกค้าที่มีงวดชำระเป็นรายเดือน
มีสถานะเป็นหนี้ปกติหรือค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน ไม่ต้องเดินทางมาที่สาขา
นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ
ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า
ตามที่รัฐบาลและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)
ได้มีนโยบายให้สถาบันการเงินดำเนินมาตรการเพื่อช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส
โรค COVID-19 ธ.ก.ส.
จึงได้ออกมาตรการให้ความช่วยเหลือลูกค้าให้สามารถดำเนินธุรกิจต่อไปได้
โดยมีกระแสเงินสดสำหรับเป็นค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการดำเนินชีวิตประจำวันและบรรเทาปัญหาการขาดสภาพคล่องของผู้ประกอบการ
โดยพักชำระหนี้ต้นเงินและดอกเบี้ย 3 เดือน โดยอัตโนมัติ (เดือนเมษายน พฤษภาคมและมิถุนายน
2563) ให้กับลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อที่มีกำหนดชำระเป็น รายเดือน
ซึ่งลูกค้าต้องมีสถานะเป็นหนี้ปกติหรือค้างชำระไม่เกิน 3 เดือน
(ณ
วันที่ 1 มีนาคม 2563) และไม่ถูกจัดชั้นเป็นหนี้ด้อยคุณภาพ (NPL)
ทั้งในส่วนของเกษตรกร
บุคคล ผู้ประกอบการ(นิติบุคคล) กลุ่มบุคคล กลุ่มเกษตรกร วิสาหกิจชุมชุน และสหกรณ์
ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทั้งทางตรงและทางอ้อม
สำหรับประเภทของสินเชื่อที่ได้รับความช่วยเหลือ ได้แก่ สินเชื่อส่วนบุคคลที่ผ่อนชำระเป็นงวด รายเดือน ได้แก่
โครงการสินเชื่อสวัสดิการบุคลากรภาครัฐฯ, โครงการสินเชื่อสวัสดิการ
สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (สปสช.) และโครงการสินเชื่อรายย่อยเพื่อใช้จ่ายฉุกเฉิน
ระยะที่ 1 และ 2 สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย
(วงเงินกู้ไม่เกิน
3 ล้านบาท)
ที่ผ่อนชำระเป็นรายเดือน
ได้แก่ โครงการสินเชื่อสวัสดิการบุคลากรภาครัฐฯ, โครงการสินเชื่อสวัสดิการ
สปสช. และสินเชื่อที่ผ่อนชำระเป็นงวดรายเดือน และโครงการสินเชื่อ SME
เกษตร
(วงเงินกู้ ไม่เกิน 20 ล้านบาท)
เฉพาะสัญญาที่มีกำหนดชำระเป็นรายเดือน
ระยะเวลาดำเนินโครงการตั้งแต่บัดนี้ ถึงวันที่ 30 มิถุนายน
2563
โดยลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางมาติดต่อที่สาขา
ทั้งนี้ หากครบกำหนดระยะเวลา 3 เดือนแล้ว ลูกค้ายังมีภาระหนัก
ไม่สามารถชำระหนี้ได้ สามารถติดต่อ ธ.ก.ส.
สาขา เพื่อขอปรับปรุงโครงสร้างหนี้ตามความสามารถในการชำระหนี้ต่อไป
หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02 555 0555 /สำนักข่าวไทย