กกพ.อนุมัติใช้กองทุนพัฒนาไฟฟ้าแก้ปัญหาโควิด -19-ภัยแล้ง

กรุงเทพฯ 3 เม.ย. – กกพ.อนุมัติเพิ่มงบกองทุนพัฒนาไฟฟ้ากว่า 1,500 ล้านบาท แก้ไขภัยแล้ง กระตุ้นเศรษฐกิจ เปิดช่องคณะกรรมการพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า (คพรฟ.) อนุมัติเงินเร่งด่วนป้องกันโควิด-19 ได้เอง


นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษก กกพ. เปิดเผยว่า เพื่อให้รวดเร็วและทันต่อการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่ประชุม คณะกรรมการ กกพ. เมื่อวันที่ 1 เมษายน มีมติเห็นชอบแนวทางปฏิบัติสำหรับการพิจารณาให้ คพรฟ.มีอำนาจอนุมัติ โครงการชุมชน เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขในการป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคติดเชื้อจากโควิด 19 ภายใต้กรอบงบประมาณเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ดังต่อไปนี้

 1. โครงการที่มีลักษณะเป็นการจัดซื้อยา การจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งเวชภัณฑ์ หรืออุปกรณ์ทางการแพทย์ เพื่อแก้ไขปัญหาด้านสาธารณสุขในการป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด -19  และ 2. โครงการที่มีลักษณะเป็นการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้ได้มาซึ่งพัสดุที่ใช้ในการป้องกัน ควบคุม หรือรักษา โรคติดเชื้อไวรัสโควิด 19 รวมทั้ง การดำเนินการอื่นใด ตามมาตรการของภาครัฐเพื่อการป้องกัน ควบคุม หรือรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19


“แม้จะมีการผ่อนคลายการพิจารณา เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว และทันต่อสถานการณ์ป้องกันโควิด-19แต่ขอให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้มีการพิจารณาโครงการโดยตระหนักถึงความคุ้มค่า และคำนึงถึงกระบวนการการตรวจสอบตามหลัง ซึ่งยังจะต้องเคร่งครัดเช่นเดิม” นายคมกฤช กล่าว

ก่อนหน้านี้คณะกรรม กกพ.มีมติให้เพิ่มกรอบวงเงินงบประมาณเงินกองทุนพัฒนาไฟฟ้าตามพระราชบัญญัติการประกอบกิจการพลังงาน  2550 มาตรา 97(3) หรือกองทุนพัฒนาชุมชนในพื้นที่รอบโรงไฟฟ้า ประจำปีงบประมาณ 2563 อีกจำนวน 1,546.32 ล้านบาท จากกรอบวงเงินเดิมที่ 2,494 ล้านบาท  เพื่อช่วยเหลือภัยแล้ง และการกระตุ้นเศรษฐกิจระดับฐานรากแล้ว โดยขยายขอบเขต วัตถุประสงค์การใช้เงิน ส่งผลให้คณะกรรมการกองทุนพัฒนาไฟฟ้า ร่วมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำโครงการที่ดี มีความคุ้มค่า และสามารถทำงานได้คล่องตัวมากขึ้นด้วย โดยหวังว่าจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการสนับสนุนรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิด-19 รวมทั้งภัยแล้ง.  -สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

ศึกชิงทำเนียบขาว 2024 : “ทรัมป์ 2.0” นำไปสู่กาลอวสานระเบียบโลก ?

นายโดนัลด์ ทรัมป์ มีแนวคิดมองโลกแบบแหวกแนว ส่วนหนึ่งทำให้ได้ใจคนอเมริกัน แต่ส่วนหนึ่งทำให้ทั้งโลกปั่นป่วน วันนี้มีคำกล่าวจากผู้นำรัสเซียว่า ระเบียบโลกใหม่กำลังเริ่มต้นขึ้น

มอบรางวัล “หมูเด้ง” ทายผล “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง

มอบรางวัลผลไม้ถาดยักษ์ให้ “หมูเด้ง” หลังทำนายทายถูกว่า “ทรัมป์” ชนะเลือกตั้ง ด้าน ผอ.สวนสัตว์ฯ อวยยศให้เป็น “อาจารย์เด้ง”

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น